วันอาทิตย์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2557

2.3 รู้จักและใช้งานเลเยอร์ (Layer)

2.3 รู้จักและใช้งานเลเยอร์ (Layer)
2.3.1 รู้จักกับ Layer
เลเยอร์ (Layer) เป็นที่อยู่ของภาพ ข้อความ หรือวัตถุต่าง ๆ ที่เราสร้างขึ้น หรือนำเข้ามาใช้ในโปรแกรม Photoshop วัตถุทุกชิ้นจะต้องอยู่บนเลเยอร์หนึ่งเสมอ ไม่สามารถอยู่เดี่ยว ๆ โดยไม่มีเลเยอร์ได้และ Photoshop CS6 ได้เพิ่มช่องสำหรับค้นหาเลเยอร์ (Layer Searching) ที่จะทำให้การค้นหาเลเยอร์ทำได้รวดเร็วยิ่งขึ้น (ส่วนนี้จะแนะนำและใช้งาน Layer searching ในบทที่ 9 ฟีเจอร์ใหม่ Photoshop CS6)
การเกิดภาพหรือชิ้นงานในโปรแกรม Photoshop จะเกิดจากการซ้อนทับกันของเลเยอร์ วัตถุในเลเยอร์บนจะซ้อนทับวัตถุที่อยู่ในเลเยอร์ล่าง ๆ จนกลายเป็นภาพผลลัพธ์ขึ้นมา การทำงานของเลเยอร์จึงเปรียบเทียบได้กับแผ่นใสที่ซ้อนทับกันจนเกิดเป็นภาพต่าง ๆ ถ้าแผ่นใสด้านล่างเป็นภาพ หรือตัวอักษร ในขณะทีแผ่นใสด้านบนเป็นภาพโปร่งใสก็จะมองเห็นทะลุไปยังภาพข้างล่างได้
2.3.2 พื้นฐานการใช้งานเลเยอร์
อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่า วัตถุทุกชิ้นในโปรแกรม Photoshop ไม่ว่าจะเป็นภาพ ตัวอักษร หรือรูปที่วาดขึ้นมาจากเครื่องมือในโปรแกรมจะต้องอยู่บนเลเยอร์ ดังนั้น การทำงานกับเลเยอร์จึงเป็นเรื่องที่ควรทำความเข้าใจ โดยพื้นฐานการใช้งานเลเยอร์ที่จำเป็น และใช้งานกันบ่อย ๆ แสดงรายละเอียดในหัวข้อต่อไปนี้

สร้างเลเยอร์ใหม่
เมื่อเราเปิดหน้ากระดานสำหรับทำงานขึ้นมาใหม่ โปรแกรมจะสร้างเลเยอร์ที่ชื่อBackground ขึ้นมาให้โดยอัตโนมัติ แต่ตามปกติเลเยอร์ Background นี้จะถูกปล่อยว่างไว้ไม่ทำอะไรกับเลเยอร์นั้น เราจึงต้องสร้างเลเยอร์ขึ้นมาใหม่ โดยขั้นตอนการสร้างเลเยอร์ใหม่ มีดังนี้



กำหนดชื่อและสีให้เลเยอร์
ตามปกติเมื่อสร้างเลเยอร์ขึ้นมาใหม่ โปรแกรมจะตั้งชื่อมาให้เป็นคำว่า Layer ตามด้วยลำดับเลข ซึ่งถ้าเราทำงานกับเลเยอร์จำนวนมาก ๆ อาจจะสับสนได้ว่า เลเยอร์ไหนเป็นอะไร มีวัตถุอะไรอยู่ในเลเยอร์นั้น ดังนั้น เพื่อป้องกันการสับสน เราสามารถกำหนดชื่อใหม่ให้กับเลเยอร์ รวมถึงกำหนดสีของเลเยอร์ได้ด้วย ดังขั้นตอนต่อไปนี้




คัดลอกเลเยอร์
นอกจากการสร้างเลเยอร์ขึ้นมาใหม่แล้ว ในการทำงานบางครั้งเราจำเป็นต้องคัดลอกเลเยอร์ขึ้นมาเพิ่ม อาจจะเพื่อทดลองคำสั่งหรือปรับแต่ค่าให้ต่างกันไปเพื่อดูผลลัพธ์ที่จะได้ออกมา วิธีการคัดลอกเลเยอร์ มีขั้นตอนดังนี้




เลือกเลเยอร์
ก่อนที่จะใช้คำสั่งหรือทำงานใด ๆ ก็ตาม สิ่งแรกที่ต้องทำก็คือ เลือกเลเยอร์ที่จะทำงานด้วยก่อนโดยวิธีการเลือกเลเยอร์สามารถทำได้ 2 แบบ ดังแสดงรายละเอียดต่อไปนี้
วิธีที่ 1 เลือกเลเยอร์ที่ต้องการโดยตรง


วิธีที่ 2 เลือกเลเยอร์ผ่านตัววัตถุ โดยการทำงานร่วมกับคำสั่ง Auto Selected วิธีนี้เหมาะกับกรณีที่จะต้องทำงานกับ Layer จำนวนมาก ๆ ดังขั้นตอนต่อไปนี้





เลือกหลาย ๆ เลเยอร์
เมื่อต้องการเลือกหลาย ๆ เลเยอร์พร้อมกัน กรณีนี้จะใช้เมื่อต้องการจะเคลื่อนย้ายวัตถุหลายชิ้นที่อยู่ในหลาย ๆ เลเยอร์ไปพร้อมกันซึ่งมีวิธีการดังนี้








2.2 Photoshop กับงานแต่งภาพเบื้องต้น

2.2 Photoshop กับงานแต่งภาพเบื้องต้น
2.2.1 การสร้าง Selection
การสร้าง Selection คือ การเลือกพื้นที่ที่เราจะทำงาน เลือกรูป หรือส่วนใดส่วนหนึ่งของรูป เพื่อนำไปใช้งาน ยกตัวอย่างเช่น เลือกพื้นที่เพื่อเทสีลงไป หรือเลือกส่วนของรูปภาพ เพื่อใช้คำสั่งเปลี่ยนสีเฉพาะส่วนนั้น เมื่อเราสร้าง Selection ครอบคลุมพื้นที่ใด ๆ ก็ตาม การใช้เครื่องมือหรือคำสั่งจะมีผลเฉพาะกับพื้นที่ส่วนที่สร้าง Selection เอาไว้เท่านั้น
การสร้าง Selection นั้นมีหลายวิธี และมีเครื่องมือให้เลือกใช้หลายชนิด เครื่องมือแต่ละชนิดจะเหมาะกับการสร้าง Selection ในรูปแบบที่แตกต่างกันไป ดังแสดงรายละเอียดต่อไปนี้
กลุ่มเครื่องมือ Marquee Toolใช้สำหรับสร้าง Selection รูปทรงเลขาคณิต เช่น สี่เหลี่ยมและวงกลม
กลุ่มเครื่องมือ Lasso Toolใช้สำหรับสร้าง Selection รูปทรงอิสระตามแต่เราจะคลิกเมาส์ลาก
กลุ่มเครื่องมือ Quick Selection และ Magic Wandใช้สร้าง Selection อย่างรวดเร็วและง่าย แต่จะเหมาะกับภาพที่มีโทนสีต่างกันอย่างชัดเจน
วิธีการเลือกใช้งานกลุ่มเครื่องมือเหล่านี้เพื่อสร้าง Selection ในรูปแบบต่าง ๆ แสดงตัวอย่างในหัวข้อต่อ ๆ ไป




       2.2.2 สร้าง Selection รูปสี่เหลี่ยม
Rectangular Marquee Tool เป็นเครื่องมือที่ใช้สำหรับสร้าง Selection แบบสี่เหลี่ยม จึงเหมาะที่จะนำไปใช้เลือก หรือตัดภาพที่เป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสและผืนผ้า
      นอกจากนี้เราสามารถใช้เครื่องมือ   เดียวกัน ในการตัดภาพแบบสี่เหลี่ยมจัตุรัส โดยเมื่อเลือกเครื่องมือ   แล้ว เวลาสร้าง Selection ให้กดปุ่ม   บนคีย์บอร์ดค้างไว้แล้วแดรกเมาส์ก็จะได้ Selection รูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสแล้ว

2.2.3 ปรับแต่แก้ไข Selection
เมื่อเราสร้าง Selection ขึ้นมาแล้ว ไม่ว่าจะด้วยเครื่องมือหรือวิธีการใด ๆ ก็ตาม เราสามารถใช้คำสั่งเพื่อปรับแต่ง Selection ได้อีก ไม่ว่าจะเป็นการเล่นกับขอบของ Selection ขึ้นมาเพิ่มเติมจากของเดิม ดังแสดงรายละเอียดในหัวข้อต่อไปนี้
ท่าขอบฟุ้งเบลอ
ถ้าจะทำให้ขอบของรูปส่วนที่เราสร้าง Selection เปลี่ยนจากขอบคม ๆ ปกติเป็นขอบฟุ้งเบลอเพื่อให้รูปดูมีลูกเล่นมากยิ่งขึ้น ก็สามารถทำได้ด้วยวิธีการง่าย ๆ ดังนี้



2.2.4 การ Save Selection และการ Load Selection ขึ้นมาใช้
สำหรับงานบางอย่างที่อาจจะไม่เสร็จสิ้นในทีเดียว หลังจากสร้าง Selection ในภาพที่ต้องการขึ้นมาและ เราสามารถบันทึก Selection นั้นเก็บไว้ใช้งานต่อไป และเมื่อจะใช้งานก็โหลดขึ้นมาใหม่ได้ตามต้องการเพื่อประหยัดเวลางานทำงานของเรา ขั้นตอนการบันทึกและโหลด Selection ให้ทำดังนี้




เมื่อต้องการจะเรียก Selection นั้นขึ้นมาใช้งานอีกครั้ง ให้ทำดังนี้



       2.2.5 เคลื่อนย้ายรูป
เราสามารถเคลื่อนย้ายวัตถุได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการย้าย คัดลอก/วาง ตัดภาพ หรือลบภาพที่ไม่ต้องการออกไป ซึ่งในการทำงานจริงจะใช้บ่อยมาก
เคลื่อนย้ายวัตถุ
การเคลื่อนย้ายวัตถุจากตำแหน่งเดิมไปยังตำแหน่งอื่น ๆ ในชิ้นงาน สามารถทำได้โดยการใช้เครื่องมือ Move Tool ดังขั้นตอนต่อไปนี้


ก็อปปี้วัตถุ
ในการทำงานถ้าเราต้องการก็อปปี้รูปหรือวัตถุใดก็ตามขึ้นมาใช้เพิ่มอีชุด ให้ใช้การก็อปปี้แล้วนำไปวางใช้งาน หรือที่เรียกว่าการ Copy/Paste ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้

ตัดเจาะวัตถุ
การตัดเจาะวัตถุเป็นการลบวัตถุที่เลือกออกจากตำแหน่งเดิม โดยเราอาจจะนำวัตถุที่ตัดเจาะนั้นไปวางยังตำแหน่งอื่น หรือจะตัดเจาะทิ้งไปเลยก็ได้ วิธีการตัดเจาะวัตถุ ทำได้ด้วยขั้นตอนดังนี้





      ลบวัตถุที่ไม่ต้องการออกจากรูป
ถ้าเราต้องการลบรูปหรือวัตถุอื่น ๆ ที่ไม่ต้องการออกจากชิ้นงาน สามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยคำสั่ง Fill ซึ่งในคำสั่งนี้จะมีคำสั่งย่อยชื่อว่า Content-Aware มีความสามารถลบและแทนที่ภาพในบริเวณที่ลบออกไปได้อย่างกลมกลืนทันที ดังแสดงตามขั้นตอนต่อไปนี้





















2.1 พื้นฐานงานกราฟิก Photoshop CS6

2.1 พื้นฐานงานกราฟิก Photoshop CS6
2.1.1 Photoshop ทำอะไรได้บ้าง
Photoshop จัดว่าเป็นโปรแกรมกราฟิกที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดในโลก ด้วยความสามารถในการจัดการงานด้านกราฟิกที่ครบถ้วน รองรับกราฟิกแทบทุกรูปแบบ ที่สำคัญเครื่องมือและคำสั่งต่าง ๆ ที่ใช้งานง่าย ในขณะที่ได้ผลลัพธ์ประสิทธิภาพสูง ถ้าถามว่า Photoshop ทำงานอะไรได้บ้าง คำตอบก็คงจะเป็น... งานกราฟิกทุกชนิด
Photoshop เป็นโปรแกรมกราฟิกที่ใช้งานกันตั้งแต่มือสมัครเล่น แต่งภาพเล่น ๆ เป็นงานอดิเรก ไปจนถึงมืออาชีพใช้เพื่อสร้างงาน สร้างอาชีพกันเลย สำหรับตัวอย่างงานด้านกราฟิกที่เกิดจากการใช้โปรแกรม Photoshop ที่เราพบเห็นกันบ่อย ๆ แสดงดังนี้
ช่างภาพ (Photographer) ทั้งมือสมัครเล่นและมืออาชีพ ใช้ Photoshop เพื่อปรับแต่งสีของรูปหรือแก้ไข (Retouch) ให้รูปถ่ายดูดีขึ้น
นักออกแบบกราฟิก (Graphic Designer) ใช้ Photoshop เพื่อสร้างานกราฟิก วาดภาพ ลงสี ฯลฯ
นักโฆษณา ครีเอทีฟ ใช้ Photoshop เพื่อออกแบบงานสื่อสิ่งพิมพ์ โปสเตอร์โฆษณา ปกนิตยสาร
นักออกแบบเว็บ (Web Designer) ใช้ Photoshop เพื่อออกแบบเว็บเพจ และรูปที่จะนำไปใช้ในหน้าเว็บ
เจ้าของร้าน เจ้าของกิจการ ใช้ Photoshop เพื่อออกแบบสินค้า หรือบรรจถภัณฑ์ (Packaging)
สถาปนิก ใช้ Photoshop เพื่อออกแบบแปลน หรือทำภาพ Perspective ของอาคารสถานที่


2.1.2 มีอะไรใหม่ใน Photoshop เวอร์ชัน CS6
Photoshop CS6 เวอร์ชันใหม่ล่าสุดนี้ มีการพัฒนาเครื่องมือแบะคำสั่งใหม่ ๆ เพื่อการใช้งานที่สะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งสิ่งใหม่ ๆ ที่เพิ่มมาใน Photoshop เวอร์ชัน CS6 มีดังนี้
Save Auto and Save in Background
คำสั่งบันทึกๆฟล์งานให้แบบอัตโนมัติ เพื่อช่วยป้องกันการลืมบันทึกไฟล์ ป้องกันไฟล์เสียหายที่อาจจะเกิดปัญหากับเครื่องคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะเกิดไฟดับ ไฟตก โปรแกรมค้างสั่งให้ปิดตัวเอง งานที่บันทึกโดยอัตโนมัติครั้งล่าสุดจะถูกกู้คืนมาและเรียกเปิดให้ทำงานทันที

Comtent – Aware Move Tool
เครื่องมือย้ายภาพ (Move) และคัดลอกเพิ่มรูปภาพ (Extend) ในตัวเดียวกัน เครื่องมือนี้ไม่เพียงแต่ย้ายตำแหน่งภาพหรือคัดลอกเพิ่มรูปภาพธรรมดา ๆ ยังสามารถที่จะประมวลผลและแทนที่ภาพใหม่ลงไปได้อย่างกลมกลืน
Patch Tool
เครื่องมือแต้มภาพหรือแทนที่ภาพถูกพัฒนาเพิ่มคำสั่ง Content – Aware เข้ามา เพื่อช่วยปรับแต่งเกลี่ยขอบภาพที่นำไปปะลงในตำแหน่งใหม่ให้มีความกลมกลืนกับสีพื้นหลังมากยิ่งขึ้น ช่วยลดเวลาการรีทัชภาพได้มาก
Script Pattern
เราสามารถเลือกสคริปต์ใส่ให้กับลาย เพื่อปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดวาง Pattern จากลวดลายธรรมดา สามารถจะวางสวดลายในรูปแบบใหม่ตามสคริปต์ที่เลือกใช้
Crop Tool
เครื่องมือตัดภาพและจัดองค์ประกอบให้ได้สัดส่วนสวยงามเครื่องมือนี้ได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการตัดภาพขึ้นมาใหม่
Perspective Crop Tool
เครื่องมือตัดภาพ ที่มีลักษณะเอียงมีความลึกมุมมองแบบ Perspective โดยเฉพาะเมื่อใช้เครื่องมือนี้ตัดภาพแล้วจากภาพเอียง ๆ จะถูกปรับมาเป็นแบบตรงให้โดยอัตโนมัติ
Shape Tool + Fill & Stroke
เครื่องมือ Shape Tool ในเวอร์ชันนี้ถูกพัฒนาเพิ่มเติมความสามารถใกล้เคียงกับโปรแกรม lllustratorที่จะสามารถกำหนดขนาดลงไปได้ นอกจากนี้เรายังสามารถกำหนดสี ไล่สี ใส่  Pattern ให้กับสีพื้น Fill และเส้นขอบ Strlkeได้ โดยเฉพาะเส้นขอบ สามารถที่จะปรับขนาดและสร้างเส้นประได้อีกด้วย
Adaptive wide angle
ภาพถ่ายที่ใช้กล้องมีเลนส์แบบ FishEyeจะได้ภาพที่มีลักษณะที่โค้งงอผิดธรรมชาติ คำสั่ง Adaptiye wide angle นี้จะใช้สำหรับปรับแต่งภาพลักษณะดังกล่าวให้กลับมาตรงเป็นภาพถ่ายปกติได้อย่างง่ายดาย
Liquify
ชุดคำสั่งสำหรับปรับแต่งรูปทรงสำหรับงานรีทัชภาพ ไม่ว่าจะดึง ยือ หดภาพ ฯลฯ เวอร์ชันนี้ถูกพัฒนาให้ทำงานได้รวดเร็วยิ่งขึ้น เนื่องจากใช้การคำนวณจาก GPU การ์ดจอช่วยประมวลผลด้วย ทำให้เครื่องมือนี้น่าใช้งานไม่อืดน่ารำคาญเหมือนเวอร์ชันเดิมอีกต่อไป
Oil Paint
เอฟเฟ็กต์สำหรับปรับเปลี่ยนภาพถ่ายให้เป็นภาพสีน้ำมันอย่างรวดเร็ว สามารถกำหนดให้ภาพมีสักษณะของรอยฝีแปรงได้หลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นแบบหยาย แบบนุ่มเรียบเนียน หรือจะทิ้งรอยฝีแปรงแบบกระด้างก็สามารถทำได้
Blur Filter
เอฟเฟ็กต์สำหรับปรับภาพให้ฟุ้งเบลอ เพื่อทจะเน้นจุดโฟกัสของภาพให้โดดเด่นยิ่งขึ้นน และจะแสดงผลความชัดความเบลอบนภาพแบบ Resl Time ให้ทันที
Lens Flare & Lighting Effects
เอฟเฟ็กต์สำหรับสร้างแสงลักษณะต่าง ๆ ในภาพที่ปรับปรุงให้ใช้งานได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งกว่าเวอร์ชันเก่า เอฟเฟ็กต์ใหม่ประกอบที่ว่านี้ประกิบด้วย Lens Flare และ Lighting Effects
Color Range – Skin tones
คำสั่งสร้าSelection เลือกบริเวณผิวคนโดยเฉพาะ เมื่อใช้งาน Color Range แล้วเลือกเป็น Skin Tones โปรแกรมจะ Selection เลือกผิวคนให้แบบอัตโนมัติ

Layer Searching
Layer Searching คือคำสั่งสำหรับการค้นหาเลเยอร์ ที่จะช่วยให้การค้นหาเลเยอร์ที่ต้องการทำได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งกับงานกราฟิกที่จำเป็นต้องใช้งานเลเยอร์จำนวนมาก ๆ

Actions – Tool Recording
พาเนลActions เวอร์ชันนี้ มีความสามารถที่จะบันทึกการทำงานหรือการวาดเส้นของเราแบบ Stepbe Step ด้วยการใช้คำสั่ง Tool Recording ช่วยบันทึกการขั้นตอนการวาดอย่างละเอียด อีกทั้งยังสามารถลดความเร็วแสดงทุกขั้นตอนเหมือนวิดีโอสอนได้อีกด้วย
Type 
ฟอนต์ใน CS6 เมื่อคลิกช่องชื่อตัวหนังสือเราจะเห็นลักษณะหน้าตาของฟอนต์แต่ละตัวได้ทันทีว่ามีหน้าตาอย่างไรบ้าง ก่อนจะเลือกนำไปใช้งานทำให้การเลือกลักษณะฟอนต์ไปใช้งานทำได้อย่างรวดเร็วลักษณะหน้าตาฟอนต์เรายังสามารถปรับให้มีขนาดใหญ่ขึ้น เล็กลง หรือซ่อนไม่ให้แสดงได้ที่เมนู Type ที่พิเศษกว่านั้นเราสามารถสร้าง Character Styles เพื่อกำหนดปรับเปลี่ยนคุณลักษณะเฉพาะของตัวหนังสือได้อย่างรวดเร็ว
Camera Raw 7.0
Camera Raw ในเวอร์ชันที่แล้วก็ถือว่าดีแล้ว มาใน CS6 นี้ Camera Raw 7.0 ถูกพัฒนาให้ทำงานเพื่อเอาใจช่างภาพมากยิ่งขึ้นไปอีก เนื่องจากสามารถแก้ไขปรับแต่งภาพได้ดีมีประสิทธิภาพกว่าเดิม สามารถปรับภาพถ่ายได้อย่างละเอียดจนได้ภาพที่สวยงาม
Brush Tool
Brush Tool ในเวอร์ชันนี้ได้ปรับปรุงในหลาย ๆ ส่วนด้วยกัน ส่วนแรกที่เห็นได้ชัดคือสามารถที่จะขยายขนาดหัวแปรงสูงสุดถึง 5000pxตอบโจทย์สำหรับนักออกแบบที่เกี่ยวข้องกับงานกราฟิกที่มีขนาดใหญ่ อีกทั้งยังเพิ่มหัวแปรงที่มีลักษณะเหมือนดินสอสีที่ไส้ดินสอสามารถจะกัดกร่อนลงได้ ทำให้ได้ภาพสายเส้นที่สมจริง อีกทั้งเพิ่มพู่กัน Airbrush มาให้พ่นสีสวย ๆ ได้อีกด้วย


3D ภาพ 3 มิติ
สร้างรูปทรง 3 มิติ เช่น รูปทรงกลม ทรงกระบอก รูปกล่อง และจัดแสงใส่มุมมองกล้อง ในเวอร์ชันนี้การปรับแต่งค่าต่าง ๆ จะสะดวกสบายยิ่งขึ้นเนื่องจากสามารุปรับแต่งที่กระดาน Canvas ได้เลยและจะแสดงผลลัพธ์ให้เห็นทันทีเมื่อมีการปรับแต่ง
Video Timeline
เวอร์ชัน CS6 นี้ทำให้เรื่องงานตัดต่อวิดีโอดูเป็นเรื่องขี้ผงไปเลย กับคุณสมบัติที่สามารถจะปรับแต่งแสงสี,โทนสี เสียง รวมถึงใส่ข้อความตัวหนังสือนอกจากนี้ยังสามารถที่จะใส่เอฟเฟ็กต์Filter เพิ่มเติมได้หลากหลาย เหมือนกับว่าเรากำลังทำงานอยู่กับภาพนิ่งที่คุ้นเคยทำให้การทำงานตัดต่อเป็นเรื่องสะดวกสบายและง่ายยิ่งขึ้น
2.1.3 เครื่องคอมพิวเตอร์ที่เหมาะกับการใช้ Photoshop CS6
เนื่องจากเป็น Photoshop เวอร์ชันใหม่ล่าสุด สเปคเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราจึงต้องพร้อมรองรับการใช้งานด้วย และสเปคเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เหมาะสำหรับการติดตั้งและใช้งาน Photoshop CS6 กันก่อนซึ่งสเปคที่แนะนำ แสดงดังต่อไปนี้
1. PC/Notebook/Mac : แทบทุกรุ่นหากจะทำงานได้อย่างสมจริงควรใช้งานร่วมกับจะภาพขนาด 17 นิ้วขึ้นไป ควรตั้งค่า Resolution ที่ 1,280 *800 ความละเอียด 16 bit แนะนำ 512 MB สำหรับ Photoshop Extended
2. CPU : lntel Pentium 4 หรือ AMD Athlon 64 Processor ขึ้นไป
3. ระบบปฏิบัติการ : หากเป็น PC/Notebook ควรใช้งานกับ Windows 7 Service Pack 1 หรือ Windows XP Service Pack 3 หากเป็น Mac ควรใช้กับ Mac OS X ซึ่งทุกระบบต้องสนับสนุนระบบ OpenGL 2.0
4. หน่วยความจำหลัก (RAM) : แนะนำ 2 GB ขึ้นไป (ยิ่งเยอะก็ยิ่งดี)
5. พื้นที่ว่างบนฮาร์ดดิสก์ : 2 GB สำหรับการติดตั้ง และควรมีพื้นที่เหลือสำหรับเป็นหน่วยความจำสำรองไว้ด้วย
2.1.4 รู้จักพื้นฐานของงานกราฟิก
ก่อนที่เราจะเริ่มตัดหัดใช้โปรแกรม Photoshop เพื่อสร้างสรรค์งานกราฟิกในรูปแบบต่าง ๆ นั้น 
เราควรจะทำความรู้จักพื้นฐานบางส่วนของงานกราฟิกเสียก่อน อย่างเช่น รู้จักการกำหนดความละเอียดของภาพ ทำความเข้าใจในเรื่องของโหมดสี รวมถึงชนิดของไฟล์รูปกราฟิกแบบต่าง ๆ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นพื้นฐานที่สำคัญของนักกราฟิก
กำหนดความละเอียดของภาพ (Resolution)
การกำหนดความละเอียดของภาพ (Resolution) จะต้องกำหนดให้เหมาะสมกับลักษณะของงานทีจะนำภาพนั้นไปใช้ เพื่อให้ชิ้นงานผลลัพธ์ออกมาดี ภาพมีความคมชัด โดยความละเอียดของภาพที่เหมาะสมกับงานแต่ละแบบ แสดงรายละเอียดดังนี้

ความละเอียด 72-96 Pixels/Inch : สำหรับการแสดงผลบนจอคอม ฯ
สำหรับภาพที่จะนำไปใช้เพื่อแสดงผ่านจอคอมพิวเตอร์ เช่น รูปกราฟิกที่จะนำไปใส่บนเว็บไซต์ รูปที่จะนำไปใช้กับพรีเซนเตอชัน หรือรูปที่จะตัดไปใส่โทรศัพท์มือถือ ให้กำหนดความละเอียดของภาพไว้ที่ 72 ถึง 96 หน่วยเป็น Pixels/Inch ก็พอ เพราะด้วยความละเอียดเพียงเท่านี้จะทำให้ไฟล์มีขนาดเล็กเครื่องคอมพิวเตอร์จะแสดงผลได้เร็วขึ้น
ความละเอียด 150 Pixels/Inch สำหรับภาพที่จะนำไปพิมพ์ผ่าน Printer
ถ้าจะสร้างรูปกราฟิกเพื่อนำไปพิมพ์ลงกระดาษด้วยเครื่องพรินเตอร์ (Printer) ความละเอียดที่เหมาะสมก็คือ 150 Pixels/Inch ขึ้นไป เพราะจะทำให้งานคมชัด มีสีสันสวยงาม
ความละเอียด 300 Pixels/Inch ขึ้นไปสำหรับงานสื่อสิ่งพิมพ์
สำหรับภาพที่จะนำไปใช้กับงานสื่อสิ่งพิมพ์ หรืองานที่ต้องส่งโรงพิมพ์เพื่อจัดพิมพ์ออกมา อย่างเช่นงานโปสเตอร์โฆษณา ปกนิตยสาร หรือสื่อสิ่งพิมพ์รูปแบบอื่น ๆ จะต้องใช้ความละเอียดขั้นต่ำ 300 Pixels/Inch เพื่อให้งานที่พิมพ์ออกมาสวยงาม คมชัด
โหมดสี
โหมดสี (Color Model) คือ รูปแบบการผสมสี เพื่อนำไปใช้กับงานประเภทต่าง ๆ โดยโหมดสีแต่ละชนิดจะเหมาะสมกับงานที่แตกต่างกันไป โหมดสีมีอยู่หลายชนิด แต่ถ้าพูดถึงโหมดสีหลัก ๆ ที่เกี่ยวกับงานออกแบบกราฟิกแล้วจะมีอยู่เพียงแค่ 3 ชนิดเท่านั้นที่จะได้ใช้งานกันยอยู่เป็นประจำ ดังแสดงต่อไปนี้

Grayscale โหมดสีเดียว
Grayscale เป็นโหมดสีที่มีอยู่เพียงสีเดียวนั่นก็คือ สีดำ การแสดงผลของภาพจะเป็นการไล่น้ำหนักสีจากดำ เทา ไปจนถึงขาว เรามักใช้สีในโหมด Grayscale นี้กับงานพิมพ์ภาพสีเดียว เพื่อประหยัดต้นทุนการพิมพ์
RGB โหมดสีสำหรับแสดงผลบนจอ
RGB เป็นโหมดที่เกิดจากการผสมของแม่สีทางแสง 3 สี ซึ่งประกอบด้วย สีแดง (Red)สีเขียว (Green) และสีน้ำเงิน (Blue) นำไปใช้ในการแสดงผลบนหน้าจอ เหมาะสมดับงานบนอินเทอร์เน็ต เว็บไซต์ และ งานมัลติมีเดียทุกชนิด สีในโหมดนี้จะมีความสด และค่าความอิ่มตัวสูงแต่ไม่สามารถนำไปใช้กับระบบงานสื่อสิ่งพิมพ์ได้

CNYK โหมดสีสำหรับงานสื่อสิ่งพิมพ์
CNYK เป็นโหมดสีที่ให้ผลลัพธ์ตรงกับสีธรรมชาติมากที่สุด เพราะเกิดจากการผสมกันของแม่สีทางวัตถุ หรือแม่สีที่เป็นหมึกพิมพ์จริง ๆ ทั้ง 4 สี ฟ้า (Cyan) บานเย็น (Magenta) เหลือง (Yellow) และ ดำ (Black) ผสมกันเป็นภาพ เป็นโหมดสีที่ใช้สำหรับงานสื่อสิ่งพิมพ์ทุกชนิด
ชนิดของไฟล์รูป
นอกจากความละเอียดของภาพแล้ว ชนิดของไฟล์รูปก็เป็นคุณสมบัติอีข้อหนึ่งที่นักกราฟิกควรจะรู้เอาไว้ ไฟล์รูปแต่ละชนิดจะมีคุณสมบัติที่เหมาะสมกับงานกราฟิกในรูปแบบแตกต่างกันไป ดังนั้น จึงควรจะเลือก Save เป็นไฟล์รูปชนิดที่เหมาะกับงานที่จะนำไปใช้ให้มากที่สุด ไฟล์รูปแต่ละชนิดมีคุณสมบัติ ดังนี้
ไฟล์ TIF (.tif)
ไฟล์รูปชนิด TIF หรือไฟล์นามสกุล .tif(ออกเสียงว่า ไฟล์ทิฟ) เป็นไฟล์ชนิดที่นิยมใช้ในการโอนถ่ายข้อมูลข้ามระหว่างโปรแกรม หรือระหว่างระบบปฏิบัติการ เช่น จากโปรแกรม Photoshop ไปยังโปรแกรมอื่น ๆ หรือจาก Windows ไปยังเครื่อง Macintosh นอกจากนี้ยังเป็นไฟล์ที่นิยมใช้สำหรับส่งงานเข้าโรงพิมพ์เนื่องจากเป็นไฟล์ที่รองรับโหมดสีแบบ CMYK และที่สำคัญเป็นไฟล์ที่สามรถเก็บคุณสมบัติต่าง ๆ ที่เราปรับแต่งด้วย Photoshop ได้เหมือนต้นฉบับทุกประการ สามารถนำมาเปิดแก้ไขด้วยโปรแกรม Photoshop ได้ในภายหลัง

ไฟล์ Bitmap (*.bmp) 
ไฟล์ชนิด Bitmap หรือไฟล์ .bmp เป็นไฟล์ภาพของระบบปฏิบัติการ Windows ข้อดีก็คือ เก็บรายละเอียดของรูปได้เยอะ แต่ปัญหาของไฟล์ภาพชนิดนี้ก็คือ ไม่รองรับโหมดสี CMYK จึงนำไปใช้กับงานสื่อสิ่งพิมพ์ไม่ได้ และยังไม่สามารถนำไปแสดงผลบนอินเทอร์เน็ตได้อีกด้วย
ไฟล์ JPEG (*.jpg)
ไฟล์ JPEG (ออกเสียงว่า ไฟล์เจเพ็ก) เป็นไฟล์ภาพที่นิยมใช้กับการแสดงผลบนเว็บไซต์ และอินเทอร์เน็ต เนื่องจากเป็นไฟล์ที่สามารถบีบอัดขนาดให้เล็กลงได้มาก แสดงผลรวดเร็ว แต่คุณภาพของไฟล์ก็ต่ำ ความละเอียดของภาพน้อย จึงไม่เหมาะที่จะนำไปใช้กับงานสื่อสิ่งพิมพ์ เพราะจะได้ให้ภาพที่พิมพ์ออกมาแตกหรือเบลอ
ไฟล์ GIF (*.gif)
ไฟล์ GIF (ออกเสียงว่า ไฟล์จิ๊ฟ) เป็นไฟล์ภาพอีกชนิดที่นิยมนำไปใช้กับแสดงผลบนอินเทอร์เน็ตเนื่องจากไฟล์ถูกบีบอัดจนมีขนาดเล็ก เหมาะกับรูปที่มีรายละเอียดของสีน้อย ๆ เช่น รูปโลโก้ หรือรูปการ์ตูน (ถ้ารายละเอียดของสีเยอะให้ใช้ไฟล์ .jpg จะดีกว่า) นอกจากนี้ไฟล์ GIF ยังสามารถสร้างภาพเคลื่อนไหวและภาพที่มีสีพื้นหลังโปร่งใสได้อีกด้วย
2.1.5 ส่วนประกอบในหน้าต่างโปรแกรม Photoshop CS6
สำหรับหน้าตาของโปรแกรม Photoshop CS6 ค่าปกติจะถูกออกแบบมาในธีมสีเข้ม เพื่อให้นักออกแบบมีสมาธิโฟกัสกับงานที่ออกแบบอยู่ได้อย่างเต็มที่ โดยหน้าต่างของโปรแกรม Photoshop CS6 มีส่วนประกอบ ดังแสดงต่อไปนี้



Menu Bar เป็นที่เก็บคำสั่งทั้งหมดของโปรแกรมเอาไว้ โดยมีการแยกหมวดหมู่ตามรูปแบบการใช้งานของคำสั่ง
1. Option Bar เป็นส่วนที่ใช้กำหนดคุณสมบัติเพิ่มเติมของเครื่องมือที่กำลังเลือกทำงานอยู่ เช่น การกำหนดขนาดหัวพู่กัน ยางลบ หรือกำหนดค่าขอบฟุ้งให้กับคำสั่งสร้าง Selection เป็นต้น
2. Toolbox เป็นกล่องที่รวบรวมเครื่องมือสำหรับการทำงานตกแต่งภาพ และสร้างสรรค์งานกราฟิก โดยจะแยกเป็นหมวดหมู่ตามลักษณะการทำงาน เช่น ดินสอ พู่กัน ยางลบ เทสี พิมพ์ตัวหนังสือ เป็นต้น
3. Panel พาเนลหรือหน้าต่างสำหรับควบคุมรายละเอียดปลีกย่อยในการทำงานแต่ละพาเนลจะมีหน้าที่ควบคุมการทำงานแต่ละส่วนแตกต่างกันไป
4. Canvas กระดานวาดรูป หรือพื้นที่ทำงาน เป็นพื้นที่สำหรับเปิดไฟล์งานขึ้นมาสร้าง แก้ไข หรือ ตกแต่ง เราสามารถขยายขนาด Canvas ให้ใหญ่ได้ เพื่อความสะดวกและในการการทำงาน
5. Video Timeline เครื่องมือปรับแต่งวีดีโอที่พัฒนาให้ใช้งานตัดต่อทั้งภาพและเสียงอย่างง่ายดาย

ปรับเปลี่ยนธีมสีหน้าตาโปรแกรม

ธีมสีของ Photoshop CS6 มีให้เลือกใช้งานอยู่ 4 ธีมด้วยกัน สำหรับผู้ที่ไม่ชอบธีมสีของโปรแกรมสามารถจะไปปรับเปลี่ยนธีมสีโปรแกรมให้มีโทนที่เข้มกว่าหรือสว่างขึ้นได้ ดังแสดงต่อไปนี้




2.1.6 หัดใช้งานโปรแกรม Photoshop CS6 ในเบื้องต้น
หลังจากรู้จักวิธีการสร้างไฟล์งานขึ้นมาแล้ว ต่อไปเราลองมาหัดใช้โปรแกรม Photoshop CS6 ในส่วนพื้นฐานที่จำเป็นต้องใช้งานกันบ่อย ๆ อย่างเช่น การจัดการกับ Toolbox Panel และหน้าต่างการทำงาน เป็นต้น
ย่อ/ขยาย/ปิด Toolbox 
Toolbox ที่ปรากฏอยู่ทางด้านซ้ายของหน้าต่างโปรแกรม Photoshop นั้น เราสามารถย่อ/ขยาย หรือปิดซ่อนไว้ชั่วคราว เพื่อขยายมุมมองของพื้นที่การทำงานให้กว้างขึ้นได้ ดังแสดงต่อไปนี้
คลิกลูกศร ด้านบน Toolbox ให้เป็น 2 คอลัมน์ และคลิกที่ลูกศร  ซ้ำอีกครั้งเมื่อต้องการให้แสดงเป็น 1 คอลัมน์เหมือนเดิม
กดปุ่ม   บนคีย์บอร์ด เพื่อนซ่อนเครื่องมือและพาเนลทั้งหมดในหน้าต่างโปรแกรม ถ้าจะเปิfToolbox และพาเนลกลับมาเหมือนเดิม ให้กดปุ่ม   อีกครั้ง



จัดการพาเนลตามต้องการ
พาเนลต่าง ๆ ที่แสดงอยู่ทางขวาของหน้าต่างโปรแกรม เราสามารถย่อเก็บลงไปเพื่อเพิ่มพื้นที่ทำงานได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังสามารถเปิดพาเนลอื่น ๆ ที่ต้องการใช้งานขึ้นมาเพิ่มได้ ดังแสดงต่อไปนี้



เปิดพาเนลอื่น ๆ ขึ้นมาเพิ่ม
ในตอนเริ่มต้นโปรแกรม Photoshop จะมีกลุ่มพาเนลมาให้ใช้งานจำนวนหนึ่ง และยังมีพาเนลอีกบางส่วนที่โปรแกรมเตรียมไว้ให้แต่ยังไม่ได้เปิดขึ้นมา ถ้าเราจะเรียกเปิดพาเนลที่ต้องการใช้งานขึ้นมาเพิ่มก็สามารถทำได้ด้วยวิธีการดังนี้

ย่อ/ขยายหน้าต่างการทำงาน (Zoom)
ในระหว่างทำงานด้วยโปรแกรม Photoshop เราสามารถใช้คำสั่งย่อหน้าต่างการทำงาน เพื่อมองภาพโดยรวมให้เห็นทั้งหมด หรือขยายเฉพาะจุดที่ต้องการแก้ไขตกแต่งภาพให้ใหญ่ขึ้นได้ ด้วยวิธีการดังนี้



คีย์ลัดสำหรับการย่อ/ขยายหน้าต่าง
นอกจากใช้เครื่องมือ Zoom ดังที่แสดงในหัวข้อก่อนหน้าแล้ว ในการขยายหรือย่อมุมมองการแสดงผล ยังมีคีย์หรือปุ่มลัดที่น่าสนใจ เพื่อให้เราย่อหรือขยายหน้าต่างอย่างรวดเร็วอีกด้วย ดังนี้ 
แสดงภาพแบบเต็มพื้นที่ทำงาน ให้กดปุ่ม   +   (0 : เลขศูนย์) บนคีย์บอร์ด


* แสดงภาพขนาด 100 % ให้กดปุ่ม   +   +    (0 : เลขศูนย์) บนคีย์บอร์ด ส่วนใหญ่ใช้ตรวจสอบงานก่อนส่ง

*การ Zoom in หรือขยายให้ใหญ่นอกจากการคลิกเครื่องมือ  แล้วเราสามารถใช้การกดปุ่ม  ร่วมกับเครื่องหมาย  ได้อีกด้วยโดยกดไปเรื่อย ๆ จะเป็นการขยายมุมมองรูปให้ใหญ่ขึ้น

* ส่วนการ Zoom out หรือย่อให้เล็กลงให้ใช้การกดปุ่ม  ร่วมกับเครื่องหมายลบ  กดไปเรื่อย ๆ จะเป็นการย่อมุมมองให้เล็กลง ๆ

ปรับเลื่อนภาพไปยังตำแหน่งที่ต้องการ
สำหรับงานที่ต้องการความละเอียดมาก เราจำเป็นต้องขยายมุมมองให้ใหญ่ขึ้น แต่เมื่อรูปขยาย
ใหญ่ขึ้นก็จะมองเห็นแค่บางส่วนในรูปเท่านั้น ดังนั้น การปรับเลื่อนภาพเพื่อไปยังตำแหน่งที่ต้องการ จึงเป็นเรื่องจำเป็น วิธีการปรับเลื่อนภาพแสดงดังนี้

จัดพื้นที่ทำงานให้กลับสภาพเริ่มต้น
หากทำงานไปสักพักแล้วรู้สึกว่า เครื่องไม้เครื่องมือหรือพาเนลต่าง ๆ วางกระจัดกระจายจนยุ่งเหยิงเราสามารุย้ายทุกอย่างให้กลับมายังตำแหน่งเริ่มต้น เหมือนตอนเปิดโปรแกรมขึ้นมาใช้งานครั้งแรก ด้วยวิธีการดังนี้

 2.1.7 สร้างไฟล์งานขึ้นมาใหม่
ก่อนที่จะเริ่มต้นทำงานด้วยโปรแกรม Photoshop สิ่งแรกที่จะต้องทำก่อนทุกครั้งก็คือ การสร้างไฟล์งานขึ้นมาใหม่ พร้อมทั้งกำหนดคุณสมบัติให้เหมาะสมกับงานที่จะนำไปใช้ ไม่ว่าจะเป็นโหมดสี ความละเอียด และขนาดของชิ้นงาน โดยในตัวอย่างจะแสดงขั้นตอนการสร้างไฟล์งานขนาดกระดาษ A4 ดังนี้



2.1.8 เปิดไฟล์ภาพขึ้นมาใช้งานในโปรแกรม
นอกจากการสร้างไฟล์ขึ้นมาใหม่แล้ว บางครั้งเราต้องการนำภาพที่ถ่ายไว้ หรือค้นหามาใช้ ซึ่งถ้าจะนำมาใช้งาน เราต้องเปิดไฟล์ภาพเหล่านั้นขึ้นมาในโปรแกรม Photoshop เสียก่อน โดยวิธีการเปิดไฟล์ภาพมีขั้นตอนดังนี้


       2.1.9 ย้อนการทำงานที่ผิดพลาด (Undo)
เมื่อทำงานหรือใช้คำสั่งผิดไปแล้วจะทำอย่างไร เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นได้บ่อยครั้ง ถ้าทำงานผิดพลาดเราสามารถใช้คำสั่งย้อนหลัง (Undo) เพื่อกลับไปยังภาพก่อนเกิดความผิดพลาด ดังแสดงรายละเอียดต่อไปนี้
ย้อนทีละขั้นตอน (Undo)
ถ้าต้องการย้อนกลับไปยังขั้นตอนการทำงานที่ผิดพลาดด่อนหน้าให้กดปุ่ม   +   บนคีย์บอร์ด
ถ้าจะย้อนกลับมากกว่า 1 ขั้นตอน เราสามารถใช้ปุ่ม   +   +   ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะย้อนกลับไปถึงขั้นตอนที่ต้องการ
ย้อนกลับหลายขั้นตอน (History)
ในกรณีที่ต้องการกลับไปแก้ไขงานย้อนหลังหลาย ๆ ขั้นตอน แทนที่จะไล่กดปุ่ม   +   +   ย้อนไปเรื่อย ๆ เพื่อความสะดวกรวดเร็วเราสามารถใช้ประโยชน์จากพาเนล History ดังแสดงตามวิธีการต่อไปนี้

    2.1.10  บันทึกไฟล์งาน
พื้นฐานการใช้งาน Photoshop เรื่องสุดท้ายที่จะแนะนำก็คือ การบันทึกไฟล์งาน (Save) ซึ่งสิ่งสำคัญของการบันทึกไฟล์ก็คือ ต้องเลือกชนิดหรือนามสกุลของไฟล์ให้เหมาะกับลักษณะงานที่จะนำไปใช้ วิธีการบันทึกไฟล์งาน ให้ทำดังนี้






          เมื่อบันทึกไฟล์ในครั้งแรกแล้ว ต่อไปในระหว่างการทำงานควรบันทึกไฟล์ไว้เป็นระยะ โดยกดปุ่ม   +   บนคีย์บอร์ดเพื่อป้องกันกรณีเกิดเหตุต่าง ๆ เกี่ยวกับโปรแกรม หรือคอมพิวเตอร์ ไฟล์งานของเราจะได้ไม่สูญหาย หรือไม่ต้องทำใหม่

บทที่ 2 เอกสารและทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง

บทที่ 2
เอกสารและทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง
เอกสารและทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง
            ในการจัดทำโครงงานการสร้างสื่อการเรียนรู้โปรแกรม Adobe Photoshop CS6 ผู้จัดทำโครงงานได้รวบรวมแนวคิดและทักษะการใช้โปรแกรมกราฟิก Adobe Photoshop CS6
            2.1 พื้นฐานของงานกราฟิก Photoshop CS6
                        2.1.1 Photoshop ทำอะไรได้บ้าง
                        2.1.2 มีอะไรใหม่ใน Photoshop เวอร์ชัน CS6
                        2.1.3 เครื่องคอมพิวเตอร์ที่เหมาะกับการใช้ Photoshop CS6
                        2.1.4 รู้จักพื้นฐานของงานกราฟิก
                        2.1.5 ส่วนประกอบในหน้าต่างโปรแกรม Photoshop CS6
                        2.1.6 หัดใช้งานโปรแกรม Photoshop CS6 ในเบื้องต้น
                        2.1.7 สร้างไฟล์งานขึ้นมาใหม่
                        2.1.8 เปิดไฟล์ภาพขึ้นมาใช้งานในโปรแกรม
                        2.1.9 ย้อนการทำงานที่ผิดพลาด (Undo)
                        2.1.10 บันทึกไฟล์งาน
            2.2 Photoshop กับงานแต่งภาพเบื้องต้น
                        2.2.1 การสร้าง Selection
                        2.2.2 สร้าง Selection รูปสี่เหลี่ยม
                        2.2.3 ปรับแต่งแก้ไข Selection
                        2.2.4 การ Save Selection และการ Load Selection ขึ้นมาใช้
                        2.2.5 เคลื่อนย้ายรูป
                        2.3 รู้จักและใช้งานเลเยอร์ (Layer)
                        2.3.1 รู้จักกับ Layer
                       2.3.2 พื้นฐานการใช้งานเลเยอร์