2.1 พื้นฐานงานกราฟิก Photoshop CS6
2.1.1 Photoshop ทำอะไรได้บ้าง
Photoshop จัดว่าเป็นโปรแกรมกราฟิกที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดในโลก ด้วยความสามารถในการจัดการงานด้านกราฟิกที่ครบถ้วน รองรับกราฟิกแทบทุกรูปแบบ ที่สำคัญเครื่องมือและคำสั่งต่าง ๆ ที่ใช้งานง่าย ในขณะที่ได้ผลลัพธ์ประสิทธิภาพสูง ถ้าถามว่า Photoshop ทำงานอะไรได้บ้าง คำตอบก็คงจะเป็น... งานกราฟิกทุกชนิด
Photoshop เป็นโปรแกรมกราฟิกที่ใช้งานกันตั้งแต่มือสมัครเล่น แต่งภาพเล่น ๆ เป็นงานอดิเรก ไปจนถึงมืออาชีพใช้เพื่อสร้างงาน สร้างอาชีพกันเลย สำหรับตัวอย่างงานด้านกราฟิกที่เกิดจากการใช้โปรแกรม Photoshop ที่เราพบเห็นกันบ่อย ๆ แสดงดังนี้
• ช่างภาพ (Photographer) ทั้งมือสมัครเล่นและมืออาชีพ ใช้ Photoshop เพื่อปรับแต่งสีของรูปหรือแก้ไข (Retouch) ให้รูปถ่ายดูดีขึ้น
• นักออกแบบกราฟิก (Graphic Designer) ใช้ Photoshop เพื่อสร้างานกราฟิก วาดภาพ ลงสี ฯลฯ
• นักโฆษณา ครีเอทีฟ ใช้ Photoshop เพื่อออกแบบงานสื่อสิ่งพิมพ์ โปสเตอร์โฆษณา ปกนิตยสาร
• นักออกแบบเว็บ (Web Designer) ใช้ Photoshop เพื่อออกแบบเว็บเพจ และรูปที่จะนำไปใช้ในหน้าเว็บ
• เจ้าของร้าน เจ้าของกิจการ ใช้ Photoshop เพื่อออกแบบสินค้า หรือบรรจถภัณฑ์ (Packaging)
• สถาปนิก ใช้ Photoshop เพื่อออกแบบแปลน หรือทำภาพ Perspective ของอาคารสถานที่
2.1.2 มีอะไรใหม่ใน Photoshop เวอร์ชัน CS6
Photoshop CS6 เวอร์ชันใหม่ล่าสุดนี้ มีการพัฒนาเครื่องมือแบะคำสั่งใหม่ ๆ เพื่อการใช้งานที่สะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งสิ่งใหม่ ๆ ที่เพิ่มมาใน Photoshop เวอร์ชัน CS6 มีดังนี้
Save Auto and Save in Background
คำสั่งบันทึกๆฟล์งานให้แบบอัตโนมัติ เพื่อช่วยป้องกันการลืมบันทึกไฟล์ ป้องกันไฟล์เสียหายที่อาจจะเกิดปัญหากับเครื่องคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะเกิดไฟดับ ไฟตก โปรแกรมค้างสั่งให้ปิดตัวเอง งานที่บันทึกโดยอัตโนมัติครั้งล่าสุดจะถูกกู้คืนมาและเรียกเปิดให้ทำงานทันที
Comtent – Aware Move Tool
เครื่องมือย้ายภาพ (Move) และคัดลอกเพิ่มรูปภาพ (Extend) ในตัวเดียวกัน เครื่องมือนี้ไม่เพียงแต่ย้ายตำแหน่งภาพหรือคัดลอกเพิ่มรูปภาพธรรมดา ๆ ยังสามารถที่จะประมวลผลและแทนที่ภาพใหม่ลงไปได้อย่างกลมกลืน
Patch Tool
เครื่องมือแต้มภาพหรือแทนที่ภาพถูกพัฒนาเพิ่มคำสั่ง Content – Aware เข้ามา เพื่อช่วยปรับแต่งเกลี่ยขอบภาพที่นำไปปะลงในตำแหน่งใหม่ให้มีความกลมกลืนกับสีพื้นหลังมากยิ่งขึ้น ช่วยลดเวลาการรีทัชภาพได้มาก
Script Pattern
เราสามารถเลือกสคริปต์ใส่ให้กับลาย เพื่อปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดวาง Pattern จากลวดลายธรรมดา สามารถจะวางสวดลายในรูปแบบใหม่ตามสคริปต์ที่เลือกใช้
Crop Tool
เครื่องมือตัดภาพและจัดองค์ประกอบให้ได้สัดส่วนสวยงามเครื่องมือนี้ได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการตัดภาพขึ้นมาใหม่
Perspective Crop Tool
เครื่องมือตัดภาพ ที่มีลักษณะเอียงมีความลึกมุมมองแบบ Perspective โดยเฉพาะเมื่อใช้เครื่องมือนี้ตัดภาพแล้วจากภาพเอียง ๆ จะถูกปรับมาเป็นแบบตรงให้โดยอัตโนมัติ
Shape Tool + Fill & Stroke
เครื่องมือ Shape Tool ในเวอร์ชันนี้ถูกพัฒนาเพิ่มเติมความสามารถใกล้เคียงกับโปรแกรม lllustratorที่จะสามารถกำหนดขนาดลงไปได้ นอกจากนี้เรายังสามารถกำหนดสี ไล่สี ใส่ Pattern ให้กับสีพื้น Fill และเส้นขอบ Strlkeได้ โดยเฉพาะเส้นขอบ สามารถที่จะปรับขนาดและสร้างเส้นประได้อีกด้วย
Adaptive wide angle
ภาพถ่ายที่ใช้กล้องมีเลนส์แบบ FishEyeจะได้ภาพที่มีลักษณะที่โค้งงอผิดธรรมชาติ คำสั่ง Adaptiye wide angle นี้จะใช้สำหรับปรับแต่งภาพลักษณะดังกล่าวให้กลับมาตรงเป็นภาพถ่ายปกติได้อย่างง่ายดาย
Liquify
ชุดคำสั่งสำหรับปรับแต่งรูปทรงสำหรับงานรีทัชภาพ ไม่ว่าจะดึง ยือ หดภาพ ฯลฯ เวอร์ชันนี้ถูกพัฒนาให้ทำงานได้รวดเร็วยิ่งขึ้น เนื่องจากใช้การคำนวณจาก GPU การ์ดจอช่วยประมวลผลด้วย ทำให้เครื่องมือนี้น่าใช้งานไม่อืดน่ารำคาญเหมือนเวอร์ชันเดิมอีกต่อไป
Oil Paint
เอฟเฟ็กต์สำหรับปรับเปลี่ยนภาพถ่ายให้เป็นภาพสีน้ำมันอย่างรวดเร็ว สามารถกำหนดให้ภาพมีสักษณะของรอยฝีแปรงได้หลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นแบบหยาย แบบนุ่มเรียบเนียน หรือจะทิ้งรอยฝีแปรงแบบกระด้างก็สามารถทำได้
Blur Filter
เอฟเฟ็กต์สำหรับปรับภาพให้ฟุ้งเบลอ เพื่อทจะเน้นจุดโฟกัสของภาพให้โดดเด่นยิ่งขึ้นน และจะแสดงผลความชัดความเบลอบนภาพแบบ Resl Time ให้ทันที
Lens Flare & Lighting Effects
เอฟเฟ็กต์สำหรับสร้างแสงลักษณะต่าง ๆ ในภาพที่ปรับปรุงให้ใช้งานได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งกว่าเวอร์ชันเก่า เอฟเฟ็กต์ใหม่ประกอบที่ว่านี้ประกิบด้วย Lens Flare และ Lighting Effects
Color Range – Skin tones
คำสั่งสร้าSelection เลือกบริเวณผิวคนโดยเฉพาะ เมื่อใช้งาน Color Range แล้วเลือกเป็น Skin Tones โปรแกรมจะ Selection เลือกผิวคนให้แบบอัตโนมัติ
Layer Searching
Layer Searching คือคำสั่งสำหรับการค้นหาเลเยอร์ ที่จะช่วยให้การค้นหาเลเยอร์ที่ต้องการทำได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งกับงานกราฟิกที่จำเป็นต้องใช้งานเลเยอร์จำนวนมาก ๆ
Actions – Tool Recording
พาเนลActions เวอร์ชันนี้ มีความสามารถที่จะบันทึกการทำงานหรือการวาดเส้นของเราแบบ Stepbe Step ด้วยการใช้คำสั่ง Tool Recording ช่วยบันทึกการขั้นตอนการวาดอย่างละเอียด อีกทั้งยังสามารถลดความเร็วแสดงทุกขั้นตอนเหมือนวิดีโอสอนได้อีกด้วย
Type
ฟอนต์ใน CS6 เมื่อคลิกช่องชื่อตัวหนังสือเราจะเห็นลักษณะหน้าตาของฟอนต์แต่ละตัวได้ทันทีว่ามีหน้าตาอย่างไรบ้าง ก่อนจะเลือกนำไปใช้งานทำให้การเลือกลักษณะฟอนต์ไปใช้งานทำได้อย่างรวดเร็วลักษณะหน้าตาฟอนต์เรายังสามารถปรับให้มีขนาดใหญ่ขึ้น เล็กลง หรือซ่อนไม่ให้แสดงได้ที่เมนู Type ที่พิเศษกว่านั้นเราสามารถสร้าง Character Styles เพื่อกำหนดปรับเปลี่ยนคุณลักษณะเฉพาะของตัวหนังสือได้อย่างรวดเร็ว
Camera Raw 7.0
Camera Raw ในเวอร์ชันที่แล้วก็ถือว่าดีแล้ว มาใน CS6 นี้ Camera Raw 7.0 ถูกพัฒนาให้ทำงานเพื่อเอาใจช่างภาพมากยิ่งขึ้นไปอีก เนื่องจากสามารถแก้ไขปรับแต่งภาพได้ดีมีประสิทธิภาพกว่าเดิม สามารถปรับภาพถ่ายได้อย่างละเอียดจนได้ภาพที่สวยงาม
Brush Tool
Brush Tool ในเวอร์ชันนี้ได้ปรับปรุงในหลาย ๆ ส่วนด้วยกัน ส่วนแรกที่เห็นได้ชัดคือสามารถที่จะขยายขนาดหัวแปรงสูงสุดถึง 5000pxตอบโจทย์สำหรับนักออกแบบที่เกี่ยวข้องกับงานกราฟิกที่มีขนาดใหญ่ อีกทั้งยังเพิ่มหัวแปรงที่มีลักษณะเหมือนดินสอสีที่ไส้ดินสอสามารถจะกัดกร่อนลงได้ ทำให้ได้ภาพสายเส้นที่สมจริง อีกทั้งเพิ่มพู่กัน Airbrush มาให้พ่นสีสวย ๆ ได้อีกด้วย
3D ภาพ 3 มิติ
สร้างรูปทรง 3 มิติ เช่น รูปทรงกลม ทรงกระบอก รูปกล่อง และจัดแสงใส่มุมมองกล้อง ในเวอร์ชันนี้การปรับแต่งค่าต่าง ๆ จะสะดวกสบายยิ่งขึ้นเนื่องจากสามารุปรับแต่งที่กระดาน Canvas ได้เลยและจะแสดงผลลัพธ์ให้เห็นทันทีเมื่อมีการปรับแต่ง
Video Timeline
เวอร์ชัน CS6 นี้ทำให้เรื่องงานตัดต่อวิดีโอดูเป็นเรื่องขี้ผงไปเลย กับคุณสมบัติที่สามารถจะปรับแต่งแสงสี,โทนสี เสียง รวมถึงใส่ข้อความตัวหนังสือนอกจากนี้ยังสามารถที่จะใส่เอฟเฟ็กต์Filter เพิ่มเติมได้หลากหลาย เหมือนกับว่าเรากำลังทำงานอยู่กับภาพนิ่งที่คุ้นเคยทำให้การทำงานตัดต่อเป็นเรื่องสะดวกสบายและง่ายยิ่งขึ้น
2.1.3 เครื่องคอมพิวเตอร์ที่เหมาะกับการใช้ Photoshop CS6
เนื่องจากเป็น Photoshop เวอร์ชันใหม่ล่าสุด สเปคเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราจึงต้องพร้อมรองรับการใช้งานด้วย และสเปคเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เหมาะสำหรับการติดตั้งและใช้งาน Photoshop CS6 กันก่อนซึ่งสเปคที่แนะนำ แสดงดังต่อไปนี้
1. PC/Notebook/Mac : แทบทุกรุ่นหากจะทำงานได้อย่างสมจริงควรใช้งานร่วมกับจะภาพขนาด 17 นิ้วขึ้นไป ควรตั้งค่า Resolution ที่ 1,280 *800 ความละเอียด 16 bit แนะนำ 512 MB สำหรับ Photoshop Extended
2. CPU : lntel Pentium 4 หรือ AMD Athlon 64 Processor ขึ้นไป
3. ระบบปฏิบัติการ : หากเป็น PC/Notebook ควรใช้งานกับ Windows 7 Service Pack 1 หรือ Windows XP Service Pack 3 หากเป็น Mac ควรใช้กับ Mac OS X ซึ่งทุกระบบต้องสนับสนุนระบบ OpenGL 2.0
4. หน่วยความจำหลัก (RAM) : แนะนำ 2 GB ขึ้นไป (ยิ่งเยอะก็ยิ่งดี)
5. พื้นที่ว่างบนฮาร์ดดิสก์ : 2 GB สำหรับการติดตั้ง และควรมีพื้นที่เหลือสำหรับเป็นหน่วยความจำสำรองไว้ด้วย
2.1.4 รู้จักพื้นฐานของงานกราฟิก
ก่อนที่เราจะเริ่มตัดหัดใช้โปรแกรม Photoshop เพื่อสร้างสรรค์งานกราฟิกในรูปแบบต่าง ๆ นั้น
เราควรจะทำความรู้จักพื้นฐานบางส่วนของงานกราฟิกเสียก่อน อย่างเช่น รู้จักการกำหนดความละเอียดของภาพ ทำความเข้าใจในเรื่องของโหมดสี รวมถึงชนิดของไฟล์รูปกราฟิกแบบต่าง ๆ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นพื้นฐานที่สำคัญของนักกราฟิก
กำหนดความละเอียดของภาพ (Resolution)
การกำหนดความละเอียดของภาพ (Resolution) จะต้องกำหนดให้เหมาะสมกับลักษณะของงานทีจะนำภาพนั้นไปใช้ เพื่อให้ชิ้นงานผลลัพธ์ออกมาดี ภาพมีความคมชัด โดยความละเอียดของภาพที่เหมาะสมกับงานแต่ละแบบ แสดงรายละเอียดดังนี้
ความละเอียด 72-96 Pixels/Inch : สำหรับการแสดงผลบนจอคอม ฯ
สำหรับภาพที่จะนำไปใช้เพื่อแสดงผ่านจอคอมพิวเตอร์ เช่น รูปกราฟิกที่จะนำไปใส่บนเว็บไซต์ รูปที่จะนำไปใช้กับพรีเซนเตอชัน หรือรูปที่จะตัดไปใส่โทรศัพท์มือถือ ให้กำหนดความละเอียดของภาพไว้ที่ 72 ถึง 96 หน่วยเป็น Pixels/Inch ก็พอ เพราะด้วยความละเอียดเพียงเท่านี้จะทำให้ไฟล์มีขนาดเล็กเครื่องคอมพิวเตอร์จะแสดงผลได้เร็วขึ้น
ความละเอียด 150 Pixels/Inch สำหรับภาพที่จะนำไปพิมพ์ผ่าน Printer
ถ้าจะสร้างรูปกราฟิกเพื่อนำไปพิมพ์ลงกระดาษด้วยเครื่องพรินเตอร์ (Printer) ความละเอียดที่เหมาะสมก็คือ 150 Pixels/Inch ขึ้นไป เพราะจะทำให้งานคมชัด มีสีสันสวยงาม
ความละเอียด 300 Pixels/Inch ขึ้นไปสำหรับงานสื่อสิ่งพิมพ์
สำหรับภาพที่จะนำไปใช้กับงานสื่อสิ่งพิมพ์ หรืองานที่ต้องส่งโรงพิมพ์เพื่อจัดพิมพ์ออกมา อย่างเช่นงานโปสเตอร์โฆษณา ปกนิตยสาร หรือสื่อสิ่งพิมพ์รูปแบบอื่น ๆ จะต้องใช้ความละเอียดขั้นต่ำ 300 Pixels/Inch เพื่อให้งานที่พิมพ์ออกมาสวยงาม คมชัด
โหมดสี
โหมดสี (Color Model) คือ รูปแบบการผสมสี เพื่อนำไปใช้กับงานประเภทต่าง ๆ โดยโหมดสีแต่ละชนิดจะเหมาะสมกับงานที่แตกต่างกันไป โหมดสีมีอยู่หลายชนิด แต่ถ้าพูดถึงโหมดสีหลัก ๆ ที่เกี่ยวกับงานออกแบบกราฟิกแล้วจะมีอยู่เพียงแค่ 3 ชนิดเท่านั้นที่จะได้ใช้งานกันยอยู่เป็นประจำ ดังแสดงต่อไปนี้
Grayscale โหมดสีเดียว
Grayscale เป็นโหมดสีที่มีอยู่เพียงสีเดียวนั่นก็คือ สีดำ การแสดงผลของภาพจะเป็นการไล่น้ำหนักสีจากดำ เทา ไปจนถึงขาว เรามักใช้สีในโหมด Grayscale นี้กับงานพิมพ์ภาพสีเดียว เพื่อประหยัดต้นทุนการพิมพ์
RGB โหมดสีสำหรับแสดงผลบนจอ
RGB เป็นโหมดที่เกิดจากการผสมของแม่สีทางแสง 3 สี ซึ่งประกอบด้วย สีแดง (Red)สีเขียว (Green) และสีน้ำเงิน (Blue) นำไปใช้ในการแสดงผลบนหน้าจอ เหมาะสมดับงานบนอินเทอร์เน็ต เว็บไซต์ และ งานมัลติมีเดียทุกชนิด สีในโหมดนี้จะมีความสด และค่าความอิ่มตัวสูงแต่ไม่สามารถนำไปใช้กับระบบงานสื่อสิ่งพิมพ์ได้
CNYK โหมดสีสำหรับงานสื่อสิ่งพิมพ์
CNYK เป็นโหมดสีที่ให้ผลลัพธ์ตรงกับสีธรรมชาติมากที่สุด เพราะเกิดจากการผสมกันของแม่สีทางวัตถุ หรือแม่สีที่เป็นหมึกพิมพ์จริง ๆ ทั้ง 4 สี ฟ้า (Cyan) บานเย็น (Magenta) เหลือง (Yellow) และ ดำ (Black) ผสมกันเป็นภาพ เป็นโหมดสีที่ใช้สำหรับงานสื่อสิ่งพิมพ์ทุกชนิด
ชนิดของไฟล์รูป
นอกจากความละเอียดของภาพแล้ว ชนิดของไฟล์รูปก็เป็นคุณสมบัติอีข้อหนึ่งที่นักกราฟิกควรจะรู้เอาไว้ ไฟล์รูปแต่ละชนิดจะมีคุณสมบัติที่เหมาะสมกับงานกราฟิกในรูปแบบแตกต่างกันไป ดังนั้น จึงควรจะเลือก Save เป็นไฟล์รูปชนิดที่เหมาะกับงานที่จะนำไปใช้ให้มากที่สุด ไฟล์รูปแต่ละชนิดมีคุณสมบัติ ดังนี้
ไฟล์ TIF (.tif)
ไฟล์รูปชนิด TIF หรือไฟล์นามสกุล .tif(ออกเสียงว่า ไฟล์ทิฟ) เป็นไฟล์ชนิดที่นิยมใช้ในการโอนถ่ายข้อมูลข้ามระหว่างโปรแกรม หรือระหว่างระบบปฏิบัติการ เช่น จากโปรแกรม Photoshop ไปยังโปรแกรมอื่น ๆ หรือจาก Windows ไปยังเครื่อง Macintosh นอกจากนี้ยังเป็นไฟล์ที่นิยมใช้สำหรับส่งงานเข้าโรงพิมพ์เนื่องจากเป็นไฟล์ที่รองรับโหมดสีแบบ CMYK และที่สำคัญเป็นไฟล์ที่สามรถเก็บคุณสมบัติต่าง ๆ ที่เราปรับแต่งด้วย Photoshop ได้เหมือนต้นฉบับทุกประการ สามารถนำมาเปิดแก้ไขด้วยโปรแกรม Photoshop ได้ในภายหลัง
ไฟล์ Bitmap (*.bmp)
ไฟล์ชนิด Bitmap หรือไฟล์ .bmp เป็นไฟล์ภาพของระบบปฏิบัติการ Windows ข้อดีก็คือ เก็บรายละเอียดของรูปได้เยอะ แต่ปัญหาของไฟล์ภาพชนิดนี้ก็คือ ไม่รองรับโหมดสี CMYK จึงนำไปใช้กับงานสื่อสิ่งพิมพ์ไม่ได้ และยังไม่สามารถนำไปแสดงผลบนอินเทอร์เน็ตได้อีกด้วย
ไฟล์ JPEG (*.jpg)
ไฟล์ JPEG (ออกเสียงว่า ไฟล์เจเพ็ก) เป็นไฟล์ภาพที่นิยมใช้กับการแสดงผลบนเว็บไซต์ และอินเทอร์เน็ต เนื่องจากเป็นไฟล์ที่สามารถบีบอัดขนาดให้เล็กลงได้มาก แสดงผลรวดเร็ว แต่คุณภาพของไฟล์ก็ต่ำ ความละเอียดของภาพน้อย จึงไม่เหมาะที่จะนำไปใช้กับงานสื่อสิ่งพิมพ์ เพราะจะได้ให้ภาพที่พิมพ์ออกมาแตกหรือเบลอ
ไฟล์ GIF (*.gif)
ไฟล์ GIF (ออกเสียงว่า ไฟล์จิ๊ฟ) เป็นไฟล์ภาพอีกชนิดที่นิยมนำไปใช้กับแสดงผลบนอินเทอร์เน็ตเนื่องจากไฟล์ถูกบีบอัดจนมีขนาดเล็ก เหมาะกับรูปที่มีรายละเอียดของสีน้อย ๆ เช่น รูปโลโก้ หรือรูปการ์ตูน (ถ้ารายละเอียดของสีเยอะให้ใช้ไฟล์ .jpg จะดีกว่า) นอกจากนี้ไฟล์ GIF ยังสามารถสร้างภาพเคลื่อนไหวและภาพที่มีสีพื้นหลังโปร่งใสได้อีกด้วย
2.1.5 ส่วนประกอบในหน้าต่างโปรแกรม Photoshop CS6
สำหรับหน้าตาของโปรแกรม Photoshop CS6 ค่าปกติจะถูกออกแบบมาในธีมสีเข้ม เพื่อให้นักออกแบบมีสมาธิโฟกัสกับงานที่ออกแบบอยู่ได้อย่างเต็มที่ โดยหน้าต่างของโปรแกรม Photoshop CS6 มีส่วนประกอบ ดังแสดงต่อไปนี้
Menu Bar เป็นที่เก็บคำสั่งทั้งหมดของโปรแกรมเอาไว้ โดยมีการแยกหมวดหมู่ตามรูปแบบการใช้งานของคำสั่ง
1. Option Bar เป็นส่วนที่ใช้กำหนดคุณสมบัติเพิ่มเติมของเครื่องมือที่กำลังเลือกทำงานอยู่ เช่น การกำหนดขนาดหัวพู่กัน ยางลบ หรือกำหนดค่าขอบฟุ้งให้กับคำสั่งสร้าง Selection เป็นต้น
2. Toolbox เป็นกล่องที่รวบรวมเครื่องมือสำหรับการทำงานตกแต่งภาพ และสร้างสรรค์งานกราฟิก โดยจะแยกเป็นหมวดหมู่ตามลักษณะการทำงาน เช่น ดินสอ พู่กัน ยางลบ เทสี พิมพ์ตัวหนังสือ เป็นต้น
3. Panel พาเนลหรือหน้าต่างสำหรับควบคุมรายละเอียดปลีกย่อยในการทำงานแต่ละพาเนลจะมีหน้าที่ควบคุมการทำงานแต่ละส่วนแตกต่างกันไป
4. Canvas กระดานวาดรูป หรือพื้นที่ทำงาน เป็นพื้นที่สำหรับเปิดไฟล์งานขึ้นมาสร้าง แก้ไข หรือ ตกแต่ง เราสามารถขยายขนาด Canvas ให้ใหญ่ได้ เพื่อความสะดวกและในการการทำงาน
5. Video Timeline เครื่องมือปรับแต่งวีดีโอที่พัฒนาให้ใช้งานตัดต่อทั้งภาพและเสียงอย่างง่ายดาย
ปรับเปลี่ยนธีมสีหน้าตาโปรแกรม
ธีมสีของ Photoshop CS6 มีให้เลือกใช้งานอยู่ 4 ธีมด้วยกัน สำหรับผู้ที่ไม่ชอบธีมสีของโปรแกรมสามารถจะไปปรับเปลี่ยนธีมสีโปรแกรมให้มีโทนที่เข้มกว่าหรือสว่างขึ้นได้ ดังแสดงต่อไปนี้
2.1.6 หัดใช้งานโปรแกรม Photoshop CS6 ในเบื้องต้น
หลังจากรู้จักวิธีการสร้างไฟล์งานขึ้นมาแล้ว ต่อไปเราลองมาหัดใช้โปรแกรม Photoshop CS6 ในส่วนพื้นฐานที่จำเป็นต้องใช้งานกันบ่อย ๆ อย่างเช่น การจัดการกับ Toolbox Panel และหน้าต่างการทำงาน เป็นต้น
ย่อ/ขยาย/ปิด Toolbox
Toolbox ที่ปรากฏอยู่ทางด้านซ้ายของหน้าต่างโปรแกรม Photoshop นั้น เราสามารถย่อ/ขยาย หรือปิดซ่อนไว้ชั่วคราว เพื่อขยายมุมมองของพื้นที่การทำงานให้กว้างขึ้นได้ ดังแสดงต่อไปนี้
คลิกลูกศร ด้านบน Toolbox ให้เป็น 2 คอลัมน์ และคลิกที่ลูกศร ซ้ำอีกครั้งเมื่อต้องการให้แสดงเป็น 1 คอลัมน์เหมือนเดิม
จัดการพาเนลตามต้องการ
พาเนลต่าง ๆ ที่แสดงอยู่ทางขวาของหน้าต่างโปรแกรม เราสามารถย่อเก็บลงไปเพื่อเพิ่มพื้นที่ทำงานได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังสามารถเปิดพาเนลอื่น ๆ ที่ต้องการใช้งานขึ้นมาเพิ่มได้ ดังแสดงต่อไปนี้
เปิดพาเนลอื่น ๆ ขึ้นมาเพิ่ม
ในตอนเริ่มต้นโปรแกรม Photoshop จะมีกลุ่มพาเนลมาให้ใช้งานจำนวนหนึ่ง และยังมีพาเนลอีกบางส่วนที่โปรแกรมเตรียมไว้ให้แต่ยังไม่ได้เปิดขึ้นมา ถ้าเราจะเรียกเปิดพาเนลที่ต้องการใช้งานขึ้นมาเพิ่มก็สามารถทำได้ด้วยวิธีการดังนี้
ย่อ/ขยายหน้าต่างการทำงาน (Zoom)
ในระหว่างทำงานด้วยโปรแกรม Photoshop เราสามารถใช้คำสั่งย่อหน้าต่างการทำงาน เพื่อมองภาพโดยรวมให้เห็นทั้งหมด หรือขยายเฉพาะจุดที่ต้องการแก้ไขตกแต่งภาพให้ใหญ่ขึ้นได้ ด้วยวิธีการดังนี้
คีย์ลัดสำหรับการย่อ/ขยายหน้าต่าง
นอกจากใช้เครื่องมือ Zoom ดังที่แสดงในหัวข้อก่อนหน้าแล้ว ในการขยายหรือย่อมุมมองการแสดงผล ยังมีคีย์หรือปุ่มลัดที่น่าสนใจ เพื่อให้เราย่อหรือขยายหน้าต่างอย่างรวดเร็วอีกด้วย ดังนี้
แสดงภาพแบบเต็มพื้นที่ทำงาน ให้กดปุ่ม + (0 : เลขศูนย์) บนคีย์บอร์ด
* แสดงภาพขนาด 100 % ให้กดปุ่ม + + (0 : เลขศูนย์) บนคีย์บอร์ด ส่วนใหญ่ใช้ตรวจสอบงานก่อนส่ง
*การ Zoom in หรือขยายให้ใหญ่นอกจากการคลิกเครื่องมือ แล้วเราสามารถใช้การกดปุ่ม ร่วมกับเครื่องหมาย ได้อีกด้วยโดยกดไปเรื่อย ๆ จะเป็นการขยายมุมมองรูปให้ใหญ่ขึ้น
* ส่วนการ Zoom out หรือย่อให้เล็กลงให้ใช้การกดปุ่ม ร่วมกับเครื่องหมายลบ กดไปเรื่อย ๆ จะเป็นการย่อมุมมองให้เล็กลง ๆ
ปรับเลื่อนภาพไปยังตำแหน่งที่ต้องการ
สำหรับงานที่ต้องการความละเอียดมาก เราจำเป็นต้องขยายมุมมองให้ใหญ่ขึ้น แต่เมื่อรูปขยาย
ใหญ่ขึ้นก็จะมองเห็นแค่บางส่วนในรูปเท่านั้น ดังนั้น การปรับเลื่อนภาพเพื่อไปยังตำแหน่งที่ต้องการ จึงเป็นเรื่องจำเป็น วิธีการปรับเลื่อนภาพแสดงดังนี้
จัดพื้นที่ทำงานให้กลับสภาพเริ่มต้น
หากทำงานไปสักพักแล้วรู้สึกว่า เครื่องไม้เครื่องมือหรือพาเนลต่าง ๆ วางกระจัดกระจายจนยุ่งเหยิงเราสามารุย้ายทุกอย่างให้กลับมายังตำแหน่งเริ่มต้น เหมือนตอนเปิดโปรแกรมขึ้นมาใช้งานครั้งแรก ด้วยวิธีการดังนี้
2.1.7 สร้างไฟล์งานขึ้นมาใหม่
ก่อนที่จะเริ่มต้นทำงานด้วยโปรแกรม Photoshop สิ่งแรกที่จะต้องทำก่อนทุกครั้งก็คือ การสร้างไฟล์งานขึ้นมาใหม่ พร้อมทั้งกำหนดคุณสมบัติให้เหมาะสมกับงานที่จะนำไปใช้ ไม่ว่าจะเป็นโหมดสี ความละเอียด และขนาดของชิ้นงาน โดยในตัวอย่างจะแสดงขั้นตอนการสร้างไฟล์งานขนาดกระดาษ A4 ดังนี้
2.1.8 เปิดไฟล์ภาพขึ้นมาใช้งานในโปรแกรม
นอกจากการสร้างไฟล์ขึ้นมาใหม่แล้ว บางครั้งเราต้องการนำภาพที่ถ่ายไว้ หรือค้นหามาใช้ ซึ่งถ้าจะนำมาใช้งาน เราต้องเปิดไฟล์ภาพเหล่านั้นขึ้นมาในโปรแกรม Photoshop เสียก่อน โดยวิธีการเปิดไฟล์ภาพมีขั้นตอนดังนี้
2.1.9 ย้อนการทำงานที่ผิดพลาด (Undo)
เมื่อทำงานหรือใช้คำสั่งผิดไปแล้วจะทำอย่างไร เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นได้บ่อยครั้ง ถ้าทำงานผิดพลาดเราสามารถใช้คำสั่งย้อนหลัง (Undo) เพื่อกลับไปยังภาพก่อนเกิดความผิดพลาด ดังแสดงรายละเอียดต่อไปนี้
ย้อนทีละขั้นตอน (Undo)
ถ้าต้องการย้อนกลับไปยังขั้นตอนการทำงานที่ผิดพลาดด่อนหน้าให้กดปุ่ม + บนคีย์บอร์ด
ถ้าจะย้อนกลับมากกว่า 1 ขั้นตอน เราสามารถใช้ปุ่ม + + ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะย้อนกลับไปถึงขั้นตอนที่ต้องการ
ย้อนกลับหลายขั้นตอน (History)
ในกรณีที่ต้องการกลับไปแก้ไขงานย้อนหลังหลาย ๆ ขั้นตอน แทนที่จะไล่กดปุ่ม + + ย้อนไปเรื่อย ๆ เพื่อความสะดวกรวดเร็วเราสามารถใช้ประโยชน์จากพาเนล History ดังแสดงตามวิธีการต่อไปนี้
2.1.10 บันทึกไฟล์งาน
พื้นฐานการใช้งาน Photoshop เรื่องสุดท้ายที่จะแนะนำก็คือ การบันทึกไฟล์งาน (Save) ซึ่งสิ่งสำคัญของการบันทึกไฟล์ก็คือ ต้องเลือกชนิดหรือนามสกุลของไฟล์ให้เหมาะกับลักษณะงานที่จะนำไปใช้ วิธีการบันทึกไฟล์งาน ให้ทำดังนี้
เมื่อบันทึกไฟล์ในครั้งแรกแล้ว ต่อไปในระหว่างการทำงานควรบันทึกไฟล์ไว้เป็นระยะ โดยกดปุ่ม + บนคีย์บอร์ดเพื่อป้องกันกรณีเกิดเหตุต่าง ๆ เกี่ยวกับโปรแกรม หรือคอมพิวเตอร์ ไฟล์งานของเราจะได้ไม่สูญหาย หรือไม่ต้องทำใหม่
2.1.1 Photoshop ทำอะไรได้บ้าง
Photoshop จัดว่าเป็นโปรแกรมกราฟิกที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดในโลก ด้วยความสามารถในการจัดการงานด้านกราฟิกที่ครบถ้วน รองรับกราฟิกแทบทุกรูปแบบ ที่สำคัญเครื่องมือและคำสั่งต่าง ๆ ที่ใช้งานง่าย ในขณะที่ได้ผลลัพธ์ประสิทธิภาพสูง ถ้าถามว่า Photoshop ทำงานอะไรได้บ้าง คำตอบก็คงจะเป็น... งานกราฟิกทุกชนิด
Photoshop เป็นโปรแกรมกราฟิกที่ใช้งานกันตั้งแต่มือสมัครเล่น แต่งภาพเล่น ๆ เป็นงานอดิเรก ไปจนถึงมืออาชีพใช้เพื่อสร้างงาน สร้างอาชีพกันเลย สำหรับตัวอย่างงานด้านกราฟิกที่เกิดจากการใช้โปรแกรม Photoshop ที่เราพบเห็นกันบ่อย ๆ แสดงดังนี้
• ช่างภาพ (Photographer) ทั้งมือสมัครเล่นและมืออาชีพ ใช้ Photoshop เพื่อปรับแต่งสีของรูปหรือแก้ไข (Retouch) ให้รูปถ่ายดูดีขึ้น
• นักออกแบบกราฟิก (Graphic Designer) ใช้ Photoshop เพื่อสร้างานกราฟิก วาดภาพ ลงสี ฯลฯ
• นักโฆษณา ครีเอทีฟ ใช้ Photoshop เพื่อออกแบบงานสื่อสิ่งพิมพ์ โปสเตอร์โฆษณา ปกนิตยสาร
• นักออกแบบเว็บ (Web Designer) ใช้ Photoshop เพื่อออกแบบเว็บเพจ และรูปที่จะนำไปใช้ในหน้าเว็บ
• เจ้าของร้าน เจ้าของกิจการ ใช้ Photoshop เพื่อออกแบบสินค้า หรือบรรจถภัณฑ์ (Packaging)
• สถาปนิก ใช้ Photoshop เพื่อออกแบบแปลน หรือทำภาพ Perspective ของอาคารสถานที่
2.1.2 มีอะไรใหม่ใน Photoshop เวอร์ชัน CS6
Photoshop CS6 เวอร์ชันใหม่ล่าสุดนี้ มีการพัฒนาเครื่องมือแบะคำสั่งใหม่ ๆ เพื่อการใช้งานที่สะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งสิ่งใหม่ ๆ ที่เพิ่มมาใน Photoshop เวอร์ชัน CS6 มีดังนี้
Save Auto and Save in Background
คำสั่งบันทึกๆฟล์งานให้แบบอัตโนมัติ เพื่อช่วยป้องกันการลืมบันทึกไฟล์ ป้องกันไฟล์เสียหายที่อาจจะเกิดปัญหากับเครื่องคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะเกิดไฟดับ ไฟตก โปรแกรมค้างสั่งให้ปิดตัวเอง งานที่บันทึกโดยอัตโนมัติครั้งล่าสุดจะถูกกู้คืนมาและเรียกเปิดให้ทำงานทันที
Comtent – Aware Move Tool
เครื่องมือย้ายภาพ (Move) และคัดลอกเพิ่มรูปภาพ (Extend) ในตัวเดียวกัน เครื่องมือนี้ไม่เพียงแต่ย้ายตำแหน่งภาพหรือคัดลอกเพิ่มรูปภาพธรรมดา ๆ ยังสามารถที่จะประมวลผลและแทนที่ภาพใหม่ลงไปได้อย่างกลมกลืน
Patch Tool
เครื่องมือแต้มภาพหรือแทนที่ภาพถูกพัฒนาเพิ่มคำสั่ง Content – Aware เข้ามา เพื่อช่วยปรับแต่งเกลี่ยขอบภาพที่นำไปปะลงในตำแหน่งใหม่ให้มีความกลมกลืนกับสีพื้นหลังมากยิ่งขึ้น ช่วยลดเวลาการรีทัชภาพได้มาก
Script Pattern
เราสามารถเลือกสคริปต์ใส่ให้กับลาย เพื่อปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดวาง Pattern จากลวดลายธรรมดา สามารถจะวางสวดลายในรูปแบบใหม่ตามสคริปต์ที่เลือกใช้
Crop Tool
เครื่องมือตัดภาพและจัดองค์ประกอบให้ได้สัดส่วนสวยงามเครื่องมือนี้ได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการตัดภาพขึ้นมาใหม่
Perspective Crop Tool
เครื่องมือตัดภาพ ที่มีลักษณะเอียงมีความลึกมุมมองแบบ Perspective โดยเฉพาะเมื่อใช้เครื่องมือนี้ตัดภาพแล้วจากภาพเอียง ๆ จะถูกปรับมาเป็นแบบตรงให้โดยอัตโนมัติ
Shape Tool + Fill & Stroke
เครื่องมือ Shape Tool ในเวอร์ชันนี้ถูกพัฒนาเพิ่มเติมความสามารถใกล้เคียงกับโปรแกรม lllustratorที่จะสามารถกำหนดขนาดลงไปได้ นอกจากนี้เรายังสามารถกำหนดสี ไล่สี ใส่ Pattern ให้กับสีพื้น Fill และเส้นขอบ Strlkeได้ โดยเฉพาะเส้นขอบ สามารถที่จะปรับขนาดและสร้างเส้นประได้อีกด้วย
Adaptive wide angle
ภาพถ่ายที่ใช้กล้องมีเลนส์แบบ FishEyeจะได้ภาพที่มีลักษณะที่โค้งงอผิดธรรมชาติ คำสั่ง Adaptiye wide angle นี้จะใช้สำหรับปรับแต่งภาพลักษณะดังกล่าวให้กลับมาตรงเป็นภาพถ่ายปกติได้อย่างง่ายดาย
Liquify
ชุดคำสั่งสำหรับปรับแต่งรูปทรงสำหรับงานรีทัชภาพ ไม่ว่าจะดึง ยือ หดภาพ ฯลฯ เวอร์ชันนี้ถูกพัฒนาให้ทำงานได้รวดเร็วยิ่งขึ้น เนื่องจากใช้การคำนวณจาก GPU การ์ดจอช่วยประมวลผลด้วย ทำให้เครื่องมือนี้น่าใช้งานไม่อืดน่ารำคาญเหมือนเวอร์ชันเดิมอีกต่อไป
Oil Paint
เอฟเฟ็กต์สำหรับปรับเปลี่ยนภาพถ่ายให้เป็นภาพสีน้ำมันอย่างรวดเร็ว สามารถกำหนดให้ภาพมีสักษณะของรอยฝีแปรงได้หลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นแบบหยาย แบบนุ่มเรียบเนียน หรือจะทิ้งรอยฝีแปรงแบบกระด้างก็สามารถทำได้
Blur Filter
เอฟเฟ็กต์สำหรับปรับภาพให้ฟุ้งเบลอ เพื่อทจะเน้นจุดโฟกัสของภาพให้โดดเด่นยิ่งขึ้นน และจะแสดงผลความชัดความเบลอบนภาพแบบ Resl Time ให้ทันที
Lens Flare & Lighting Effects
เอฟเฟ็กต์สำหรับสร้างแสงลักษณะต่าง ๆ ในภาพที่ปรับปรุงให้ใช้งานได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งกว่าเวอร์ชันเก่า เอฟเฟ็กต์ใหม่ประกอบที่ว่านี้ประกิบด้วย Lens Flare และ Lighting Effects
Color Range – Skin tones
คำสั่งสร้าSelection เลือกบริเวณผิวคนโดยเฉพาะ เมื่อใช้งาน Color Range แล้วเลือกเป็น Skin Tones โปรแกรมจะ Selection เลือกผิวคนให้แบบอัตโนมัติ
Layer Searching
Layer Searching คือคำสั่งสำหรับการค้นหาเลเยอร์ ที่จะช่วยให้การค้นหาเลเยอร์ที่ต้องการทำได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งกับงานกราฟิกที่จำเป็นต้องใช้งานเลเยอร์จำนวนมาก ๆ
Actions – Tool Recording
พาเนลActions เวอร์ชันนี้ มีความสามารถที่จะบันทึกการทำงานหรือการวาดเส้นของเราแบบ Stepbe Step ด้วยการใช้คำสั่ง Tool Recording ช่วยบันทึกการขั้นตอนการวาดอย่างละเอียด อีกทั้งยังสามารถลดความเร็วแสดงทุกขั้นตอนเหมือนวิดีโอสอนได้อีกด้วย
Type
ฟอนต์ใน CS6 เมื่อคลิกช่องชื่อตัวหนังสือเราจะเห็นลักษณะหน้าตาของฟอนต์แต่ละตัวได้ทันทีว่ามีหน้าตาอย่างไรบ้าง ก่อนจะเลือกนำไปใช้งานทำให้การเลือกลักษณะฟอนต์ไปใช้งานทำได้อย่างรวดเร็วลักษณะหน้าตาฟอนต์เรายังสามารถปรับให้มีขนาดใหญ่ขึ้น เล็กลง หรือซ่อนไม่ให้แสดงได้ที่เมนู Type ที่พิเศษกว่านั้นเราสามารถสร้าง Character Styles เพื่อกำหนดปรับเปลี่ยนคุณลักษณะเฉพาะของตัวหนังสือได้อย่างรวดเร็ว
Camera Raw 7.0
Camera Raw ในเวอร์ชันที่แล้วก็ถือว่าดีแล้ว มาใน CS6 นี้ Camera Raw 7.0 ถูกพัฒนาให้ทำงานเพื่อเอาใจช่างภาพมากยิ่งขึ้นไปอีก เนื่องจากสามารถแก้ไขปรับแต่งภาพได้ดีมีประสิทธิภาพกว่าเดิม สามารถปรับภาพถ่ายได้อย่างละเอียดจนได้ภาพที่สวยงาม
Brush Tool
Brush Tool ในเวอร์ชันนี้ได้ปรับปรุงในหลาย ๆ ส่วนด้วยกัน ส่วนแรกที่เห็นได้ชัดคือสามารถที่จะขยายขนาดหัวแปรงสูงสุดถึง 5000pxตอบโจทย์สำหรับนักออกแบบที่เกี่ยวข้องกับงานกราฟิกที่มีขนาดใหญ่ อีกทั้งยังเพิ่มหัวแปรงที่มีลักษณะเหมือนดินสอสีที่ไส้ดินสอสามารถจะกัดกร่อนลงได้ ทำให้ได้ภาพสายเส้นที่สมจริง อีกทั้งเพิ่มพู่กัน Airbrush มาให้พ่นสีสวย ๆ ได้อีกด้วย
3D ภาพ 3 มิติ
สร้างรูปทรง 3 มิติ เช่น รูปทรงกลม ทรงกระบอก รูปกล่อง และจัดแสงใส่มุมมองกล้อง ในเวอร์ชันนี้การปรับแต่งค่าต่าง ๆ จะสะดวกสบายยิ่งขึ้นเนื่องจากสามารุปรับแต่งที่กระดาน Canvas ได้เลยและจะแสดงผลลัพธ์ให้เห็นทันทีเมื่อมีการปรับแต่ง
Video Timeline
เวอร์ชัน CS6 นี้ทำให้เรื่องงานตัดต่อวิดีโอดูเป็นเรื่องขี้ผงไปเลย กับคุณสมบัติที่สามารถจะปรับแต่งแสงสี,โทนสี เสียง รวมถึงใส่ข้อความตัวหนังสือนอกจากนี้ยังสามารถที่จะใส่เอฟเฟ็กต์Filter เพิ่มเติมได้หลากหลาย เหมือนกับว่าเรากำลังทำงานอยู่กับภาพนิ่งที่คุ้นเคยทำให้การทำงานตัดต่อเป็นเรื่องสะดวกสบายและง่ายยิ่งขึ้น
2.1.3 เครื่องคอมพิวเตอร์ที่เหมาะกับการใช้ Photoshop CS6
เนื่องจากเป็น Photoshop เวอร์ชันใหม่ล่าสุด สเปคเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราจึงต้องพร้อมรองรับการใช้งานด้วย และสเปคเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เหมาะสำหรับการติดตั้งและใช้งาน Photoshop CS6 กันก่อนซึ่งสเปคที่แนะนำ แสดงดังต่อไปนี้
1. PC/Notebook/Mac : แทบทุกรุ่นหากจะทำงานได้อย่างสมจริงควรใช้งานร่วมกับจะภาพขนาด 17 นิ้วขึ้นไป ควรตั้งค่า Resolution ที่ 1,280 *800 ความละเอียด 16 bit แนะนำ 512 MB สำหรับ Photoshop Extended
2. CPU : lntel Pentium 4 หรือ AMD Athlon 64 Processor ขึ้นไป
3. ระบบปฏิบัติการ : หากเป็น PC/Notebook ควรใช้งานกับ Windows 7 Service Pack 1 หรือ Windows XP Service Pack 3 หากเป็น Mac ควรใช้กับ Mac OS X ซึ่งทุกระบบต้องสนับสนุนระบบ OpenGL 2.0
4. หน่วยความจำหลัก (RAM) : แนะนำ 2 GB ขึ้นไป (ยิ่งเยอะก็ยิ่งดี)
5. พื้นที่ว่างบนฮาร์ดดิสก์ : 2 GB สำหรับการติดตั้ง และควรมีพื้นที่เหลือสำหรับเป็นหน่วยความจำสำรองไว้ด้วย
2.1.4 รู้จักพื้นฐานของงานกราฟิก
ก่อนที่เราจะเริ่มตัดหัดใช้โปรแกรม Photoshop เพื่อสร้างสรรค์งานกราฟิกในรูปแบบต่าง ๆ นั้น
เราควรจะทำความรู้จักพื้นฐานบางส่วนของงานกราฟิกเสียก่อน อย่างเช่น รู้จักการกำหนดความละเอียดของภาพ ทำความเข้าใจในเรื่องของโหมดสี รวมถึงชนิดของไฟล์รูปกราฟิกแบบต่าง ๆ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นพื้นฐานที่สำคัญของนักกราฟิก
กำหนดความละเอียดของภาพ (Resolution)
การกำหนดความละเอียดของภาพ (Resolution) จะต้องกำหนดให้เหมาะสมกับลักษณะของงานทีจะนำภาพนั้นไปใช้ เพื่อให้ชิ้นงานผลลัพธ์ออกมาดี ภาพมีความคมชัด โดยความละเอียดของภาพที่เหมาะสมกับงานแต่ละแบบ แสดงรายละเอียดดังนี้
ความละเอียด 72-96 Pixels/Inch : สำหรับการแสดงผลบนจอคอม ฯ
สำหรับภาพที่จะนำไปใช้เพื่อแสดงผ่านจอคอมพิวเตอร์ เช่น รูปกราฟิกที่จะนำไปใส่บนเว็บไซต์ รูปที่จะนำไปใช้กับพรีเซนเตอชัน หรือรูปที่จะตัดไปใส่โทรศัพท์มือถือ ให้กำหนดความละเอียดของภาพไว้ที่ 72 ถึง 96 หน่วยเป็น Pixels/Inch ก็พอ เพราะด้วยความละเอียดเพียงเท่านี้จะทำให้ไฟล์มีขนาดเล็กเครื่องคอมพิวเตอร์จะแสดงผลได้เร็วขึ้น
ความละเอียด 150 Pixels/Inch สำหรับภาพที่จะนำไปพิมพ์ผ่าน Printer
ถ้าจะสร้างรูปกราฟิกเพื่อนำไปพิมพ์ลงกระดาษด้วยเครื่องพรินเตอร์ (Printer) ความละเอียดที่เหมาะสมก็คือ 150 Pixels/Inch ขึ้นไป เพราะจะทำให้งานคมชัด มีสีสันสวยงาม
ความละเอียด 300 Pixels/Inch ขึ้นไปสำหรับงานสื่อสิ่งพิมพ์
สำหรับภาพที่จะนำไปใช้กับงานสื่อสิ่งพิมพ์ หรืองานที่ต้องส่งโรงพิมพ์เพื่อจัดพิมพ์ออกมา อย่างเช่นงานโปสเตอร์โฆษณา ปกนิตยสาร หรือสื่อสิ่งพิมพ์รูปแบบอื่น ๆ จะต้องใช้ความละเอียดขั้นต่ำ 300 Pixels/Inch เพื่อให้งานที่พิมพ์ออกมาสวยงาม คมชัด
โหมดสี
โหมดสี (Color Model) คือ รูปแบบการผสมสี เพื่อนำไปใช้กับงานประเภทต่าง ๆ โดยโหมดสีแต่ละชนิดจะเหมาะสมกับงานที่แตกต่างกันไป โหมดสีมีอยู่หลายชนิด แต่ถ้าพูดถึงโหมดสีหลัก ๆ ที่เกี่ยวกับงานออกแบบกราฟิกแล้วจะมีอยู่เพียงแค่ 3 ชนิดเท่านั้นที่จะได้ใช้งานกันยอยู่เป็นประจำ ดังแสดงต่อไปนี้
Grayscale โหมดสีเดียว
Grayscale เป็นโหมดสีที่มีอยู่เพียงสีเดียวนั่นก็คือ สีดำ การแสดงผลของภาพจะเป็นการไล่น้ำหนักสีจากดำ เทา ไปจนถึงขาว เรามักใช้สีในโหมด Grayscale นี้กับงานพิมพ์ภาพสีเดียว เพื่อประหยัดต้นทุนการพิมพ์
RGB โหมดสีสำหรับแสดงผลบนจอ
RGB เป็นโหมดที่เกิดจากการผสมของแม่สีทางแสง 3 สี ซึ่งประกอบด้วย สีแดง (Red)สีเขียว (Green) และสีน้ำเงิน (Blue) นำไปใช้ในการแสดงผลบนหน้าจอ เหมาะสมดับงานบนอินเทอร์เน็ต เว็บไซต์ และ งานมัลติมีเดียทุกชนิด สีในโหมดนี้จะมีความสด และค่าความอิ่มตัวสูงแต่ไม่สามารถนำไปใช้กับระบบงานสื่อสิ่งพิมพ์ได้
CNYK โหมดสีสำหรับงานสื่อสิ่งพิมพ์
CNYK เป็นโหมดสีที่ให้ผลลัพธ์ตรงกับสีธรรมชาติมากที่สุด เพราะเกิดจากการผสมกันของแม่สีทางวัตถุ หรือแม่สีที่เป็นหมึกพิมพ์จริง ๆ ทั้ง 4 สี ฟ้า (Cyan) บานเย็น (Magenta) เหลือง (Yellow) และ ดำ (Black) ผสมกันเป็นภาพ เป็นโหมดสีที่ใช้สำหรับงานสื่อสิ่งพิมพ์ทุกชนิด
ชนิดของไฟล์รูป
นอกจากความละเอียดของภาพแล้ว ชนิดของไฟล์รูปก็เป็นคุณสมบัติอีข้อหนึ่งที่นักกราฟิกควรจะรู้เอาไว้ ไฟล์รูปแต่ละชนิดจะมีคุณสมบัติที่เหมาะสมกับงานกราฟิกในรูปแบบแตกต่างกันไป ดังนั้น จึงควรจะเลือก Save เป็นไฟล์รูปชนิดที่เหมาะกับงานที่จะนำไปใช้ให้มากที่สุด ไฟล์รูปแต่ละชนิดมีคุณสมบัติ ดังนี้
ไฟล์ TIF (.tif)
ไฟล์รูปชนิด TIF หรือไฟล์นามสกุล .tif(ออกเสียงว่า ไฟล์ทิฟ) เป็นไฟล์ชนิดที่นิยมใช้ในการโอนถ่ายข้อมูลข้ามระหว่างโปรแกรม หรือระหว่างระบบปฏิบัติการ เช่น จากโปรแกรม Photoshop ไปยังโปรแกรมอื่น ๆ หรือจาก Windows ไปยังเครื่อง Macintosh นอกจากนี้ยังเป็นไฟล์ที่นิยมใช้สำหรับส่งงานเข้าโรงพิมพ์เนื่องจากเป็นไฟล์ที่รองรับโหมดสีแบบ CMYK และที่สำคัญเป็นไฟล์ที่สามรถเก็บคุณสมบัติต่าง ๆ ที่เราปรับแต่งด้วย Photoshop ได้เหมือนต้นฉบับทุกประการ สามารถนำมาเปิดแก้ไขด้วยโปรแกรม Photoshop ได้ในภายหลัง
ไฟล์ Bitmap (*.bmp)
ไฟล์ชนิด Bitmap หรือไฟล์ .bmp เป็นไฟล์ภาพของระบบปฏิบัติการ Windows ข้อดีก็คือ เก็บรายละเอียดของรูปได้เยอะ แต่ปัญหาของไฟล์ภาพชนิดนี้ก็คือ ไม่รองรับโหมดสี CMYK จึงนำไปใช้กับงานสื่อสิ่งพิมพ์ไม่ได้ และยังไม่สามารถนำไปแสดงผลบนอินเทอร์เน็ตได้อีกด้วย
ไฟล์ JPEG (*.jpg)
ไฟล์ JPEG (ออกเสียงว่า ไฟล์เจเพ็ก) เป็นไฟล์ภาพที่นิยมใช้กับการแสดงผลบนเว็บไซต์ และอินเทอร์เน็ต เนื่องจากเป็นไฟล์ที่สามารถบีบอัดขนาดให้เล็กลงได้มาก แสดงผลรวดเร็ว แต่คุณภาพของไฟล์ก็ต่ำ ความละเอียดของภาพน้อย จึงไม่เหมาะที่จะนำไปใช้กับงานสื่อสิ่งพิมพ์ เพราะจะได้ให้ภาพที่พิมพ์ออกมาแตกหรือเบลอ
ไฟล์ GIF (*.gif)
ไฟล์ GIF (ออกเสียงว่า ไฟล์จิ๊ฟ) เป็นไฟล์ภาพอีกชนิดที่นิยมนำไปใช้กับแสดงผลบนอินเทอร์เน็ตเนื่องจากไฟล์ถูกบีบอัดจนมีขนาดเล็ก เหมาะกับรูปที่มีรายละเอียดของสีน้อย ๆ เช่น รูปโลโก้ หรือรูปการ์ตูน (ถ้ารายละเอียดของสีเยอะให้ใช้ไฟล์ .jpg จะดีกว่า) นอกจากนี้ไฟล์ GIF ยังสามารถสร้างภาพเคลื่อนไหวและภาพที่มีสีพื้นหลังโปร่งใสได้อีกด้วย
2.1.5 ส่วนประกอบในหน้าต่างโปรแกรม Photoshop CS6
สำหรับหน้าตาของโปรแกรม Photoshop CS6 ค่าปกติจะถูกออกแบบมาในธีมสีเข้ม เพื่อให้นักออกแบบมีสมาธิโฟกัสกับงานที่ออกแบบอยู่ได้อย่างเต็มที่ โดยหน้าต่างของโปรแกรม Photoshop CS6 มีส่วนประกอบ ดังแสดงต่อไปนี้
Menu Bar เป็นที่เก็บคำสั่งทั้งหมดของโปรแกรมเอาไว้ โดยมีการแยกหมวดหมู่ตามรูปแบบการใช้งานของคำสั่ง
1. Option Bar เป็นส่วนที่ใช้กำหนดคุณสมบัติเพิ่มเติมของเครื่องมือที่กำลังเลือกทำงานอยู่ เช่น การกำหนดขนาดหัวพู่กัน ยางลบ หรือกำหนดค่าขอบฟุ้งให้กับคำสั่งสร้าง Selection เป็นต้น
2. Toolbox เป็นกล่องที่รวบรวมเครื่องมือสำหรับการทำงานตกแต่งภาพ และสร้างสรรค์งานกราฟิก โดยจะแยกเป็นหมวดหมู่ตามลักษณะการทำงาน เช่น ดินสอ พู่กัน ยางลบ เทสี พิมพ์ตัวหนังสือ เป็นต้น
3. Panel พาเนลหรือหน้าต่างสำหรับควบคุมรายละเอียดปลีกย่อยในการทำงานแต่ละพาเนลจะมีหน้าที่ควบคุมการทำงานแต่ละส่วนแตกต่างกันไป
4. Canvas กระดานวาดรูป หรือพื้นที่ทำงาน เป็นพื้นที่สำหรับเปิดไฟล์งานขึ้นมาสร้าง แก้ไข หรือ ตกแต่ง เราสามารถขยายขนาด Canvas ให้ใหญ่ได้ เพื่อความสะดวกและในการการทำงาน
5. Video Timeline เครื่องมือปรับแต่งวีดีโอที่พัฒนาให้ใช้งานตัดต่อทั้งภาพและเสียงอย่างง่ายดาย
ปรับเปลี่ยนธีมสีหน้าตาโปรแกรม
ธีมสีของ Photoshop CS6 มีให้เลือกใช้งานอยู่ 4 ธีมด้วยกัน สำหรับผู้ที่ไม่ชอบธีมสีของโปรแกรมสามารถจะไปปรับเปลี่ยนธีมสีโปรแกรมให้มีโทนที่เข้มกว่าหรือสว่างขึ้นได้ ดังแสดงต่อไปนี้
2.1.6 หัดใช้งานโปรแกรม Photoshop CS6 ในเบื้องต้น
หลังจากรู้จักวิธีการสร้างไฟล์งานขึ้นมาแล้ว ต่อไปเราลองมาหัดใช้โปรแกรม Photoshop CS6 ในส่วนพื้นฐานที่จำเป็นต้องใช้งานกันบ่อย ๆ อย่างเช่น การจัดการกับ Toolbox Panel และหน้าต่างการทำงาน เป็นต้น
ย่อ/ขยาย/ปิด Toolbox
Toolbox ที่ปรากฏอยู่ทางด้านซ้ายของหน้าต่างโปรแกรม Photoshop นั้น เราสามารถย่อ/ขยาย หรือปิดซ่อนไว้ชั่วคราว เพื่อขยายมุมมองของพื้นที่การทำงานให้กว้างขึ้นได้ ดังแสดงต่อไปนี้
คลิกลูกศร ด้านบน Toolbox ให้เป็น 2 คอลัมน์ และคลิกที่ลูกศร ซ้ำอีกครั้งเมื่อต้องการให้แสดงเป็น 1 คอลัมน์เหมือนเดิม
กดปุ่ม บนคีย์บอร์ด เพื่อนซ่อนเครื่องมือและพาเนลทั้งหมดในหน้าต่างโปรแกรม ถ้าจะเปิfToolbox และพาเนลกลับมาเหมือนเดิม ให้กดปุ่ม อีกครั้ง
จัดการพาเนลตามต้องการ
พาเนลต่าง ๆ ที่แสดงอยู่ทางขวาของหน้าต่างโปรแกรม เราสามารถย่อเก็บลงไปเพื่อเพิ่มพื้นที่ทำงานได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังสามารถเปิดพาเนลอื่น ๆ ที่ต้องการใช้งานขึ้นมาเพิ่มได้ ดังแสดงต่อไปนี้
เปิดพาเนลอื่น ๆ ขึ้นมาเพิ่ม
ในตอนเริ่มต้นโปรแกรม Photoshop จะมีกลุ่มพาเนลมาให้ใช้งานจำนวนหนึ่ง และยังมีพาเนลอีกบางส่วนที่โปรแกรมเตรียมไว้ให้แต่ยังไม่ได้เปิดขึ้นมา ถ้าเราจะเรียกเปิดพาเนลที่ต้องการใช้งานขึ้นมาเพิ่มก็สามารถทำได้ด้วยวิธีการดังนี้
ย่อ/ขยายหน้าต่างการทำงาน (Zoom)
ในระหว่างทำงานด้วยโปรแกรม Photoshop เราสามารถใช้คำสั่งย่อหน้าต่างการทำงาน เพื่อมองภาพโดยรวมให้เห็นทั้งหมด หรือขยายเฉพาะจุดที่ต้องการแก้ไขตกแต่งภาพให้ใหญ่ขึ้นได้ ด้วยวิธีการดังนี้
คีย์ลัดสำหรับการย่อ/ขยายหน้าต่าง
นอกจากใช้เครื่องมือ Zoom ดังที่แสดงในหัวข้อก่อนหน้าแล้ว ในการขยายหรือย่อมุมมองการแสดงผล ยังมีคีย์หรือปุ่มลัดที่น่าสนใจ เพื่อให้เราย่อหรือขยายหน้าต่างอย่างรวดเร็วอีกด้วย ดังนี้
แสดงภาพแบบเต็มพื้นที่ทำงาน ให้กดปุ่ม + (0 : เลขศูนย์) บนคีย์บอร์ด
* แสดงภาพขนาด 100 % ให้กดปุ่ม + + (0 : เลขศูนย์) บนคีย์บอร์ด ส่วนใหญ่ใช้ตรวจสอบงานก่อนส่ง
*การ Zoom in หรือขยายให้ใหญ่นอกจากการคลิกเครื่องมือ แล้วเราสามารถใช้การกดปุ่ม ร่วมกับเครื่องหมาย ได้อีกด้วยโดยกดไปเรื่อย ๆ จะเป็นการขยายมุมมองรูปให้ใหญ่ขึ้น
* ส่วนการ Zoom out หรือย่อให้เล็กลงให้ใช้การกดปุ่ม ร่วมกับเครื่องหมายลบ กดไปเรื่อย ๆ จะเป็นการย่อมุมมองให้เล็กลง ๆ
ปรับเลื่อนภาพไปยังตำแหน่งที่ต้องการ
สำหรับงานที่ต้องการความละเอียดมาก เราจำเป็นต้องขยายมุมมองให้ใหญ่ขึ้น แต่เมื่อรูปขยาย
ใหญ่ขึ้นก็จะมองเห็นแค่บางส่วนในรูปเท่านั้น ดังนั้น การปรับเลื่อนภาพเพื่อไปยังตำแหน่งที่ต้องการ จึงเป็นเรื่องจำเป็น วิธีการปรับเลื่อนภาพแสดงดังนี้
จัดพื้นที่ทำงานให้กลับสภาพเริ่มต้น
หากทำงานไปสักพักแล้วรู้สึกว่า เครื่องไม้เครื่องมือหรือพาเนลต่าง ๆ วางกระจัดกระจายจนยุ่งเหยิงเราสามารุย้ายทุกอย่างให้กลับมายังตำแหน่งเริ่มต้น เหมือนตอนเปิดโปรแกรมขึ้นมาใช้งานครั้งแรก ด้วยวิธีการดังนี้
ก่อนที่จะเริ่มต้นทำงานด้วยโปรแกรม Photoshop สิ่งแรกที่จะต้องทำก่อนทุกครั้งก็คือ การสร้างไฟล์งานขึ้นมาใหม่ พร้อมทั้งกำหนดคุณสมบัติให้เหมาะสมกับงานที่จะนำไปใช้ ไม่ว่าจะเป็นโหมดสี ความละเอียด และขนาดของชิ้นงาน โดยในตัวอย่างจะแสดงขั้นตอนการสร้างไฟล์งานขนาดกระดาษ A4 ดังนี้
2.1.8 เปิดไฟล์ภาพขึ้นมาใช้งานในโปรแกรม
นอกจากการสร้างไฟล์ขึ้นมาใหม่แล้ว บางครั้งเราต้องการนำภาพที่ถ่ายไว้ หรือค้นหามาใช้ ซึ่งถ้าจะนำมาใช้งาน เราต้องเปิดไฟล์ภาพเหล่านั้นขึ้นมาในโปรแกรม Photoshop เสียก่อน โดยวิธีการเปิดไฟล์ภาพมีขั้นตอนดังนี้
2.1.9 ย้อนการทำงานที่ผิดพลาด (Undo)
เมื่อทำงานหรือใช้คำสั่งผิดไปแล้วจะทำอย่างไร เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นได้บ่อยครั้ง ถ้าทำงานผิดพลาดเราสามารถใช้คำสั่งย้อนหลัง (Undo) เพื่อกลับไปยังภาพก่อนเกิดความผิดพลาด ดังแสดงรายละเอียดต่อไปนี้
ย้อนทีละขั้นตอน (Undo)
ถ้าต้องการย้อนกลับไปยังขั้นตอนการทำงานที่ผิดพลาดด่อนหน้าให้กดปุ่ม + บนคีย์บอร์ด
ถ้าจะย้อนกลับมากกว่า 1 ขั้นตอน เราสามารถใช้ปุ่ม + + ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะย้อนกลับไปถึงขั้นตอนที่ต้องการ
ย้อนกลับหลายขั้นตอน (History)
ในกรณีที่ต้องการกลับไปแก้ไขงานย้อนหลังหลาย ๆ ขั้นตอน แทนที่จะไล่กดปุ่ม + + ย้อนไปเรื่อย ๆ เพื่อความสะดวกรวดเร็วเราสามารถใช้ประโยชน์จากพาเนล History ดังแสดงตามวิธีการต่อไปนี้
2.1.10 บันทึกไฟล์งาน
พื้นฐานการใช้งาน Photoshop เรื่องสุดท้ายที่จะแนะนำก็คือ การบันทึกไฟล์งาน (Save) ซึ่งสิ่งสำคัญของการบันทึกไฟล์ก็คือ ต้องเลือกชนิดหรือนามสกุลของไฟล์ให้เหมาะกับลักษณะงานที่จะนำไปใช้ วิธีการบันทึกไฟล์งาน ให้ทำดังนี้
เมื่อบันทึกไฟล์ในครั้งแรกแล้ว ต่อไปในระหว่างการทำงานควรบันทึกไฟล์ไว้เป็นระยะ โดยกดปุ่ม + บนคีย์บอร์ดเพื่อป้องกันกรณีเกิดเหตุต่าง ๆ เกี่ยวกับโปรแกรม หรือคอมพิวเตอร์ ไฟล์งานของเราจะได้ไม่สูญหาย หรือไม่ต้องทำใหม่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น